PUBLIC HEALTH

ศธ. เปิดไทม์ไลน์ฉีดไฟเซอร์เด็ก 5-12 ปี เริ่ม 1 ก.พ. นี้

ส่วนปชช.ทั่วไป ศบค.อนุมัติแผนฉีดเข็ม 4 แล้ว

กระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เปิดเผยไทม์ไลน์การเตรียมความพร้อมฉีดวัคซีนไฟเซอร์ในเด็กอายุ 5-12 ปี ของ ศธ. คาดว่าจะเริ่มฉีดเข็มที่ 1 ได้ในวันที่ 1 กุมภาพันธ์นี้ เป็นต้นไป ส่วนเข็มที่ 2 ในวันที่ 26 กุมภาพันธ์เป็นต้นไป ภายใต้แผนงานดังนี้

วันที่ 12-14 มกราคม 65 ศธ. จะแจ้งสถานศึกษาให้จัดเตรียมรายชื่อและจำนวนนักเรียน แบ่งเป็นระดับอนุบาล 1-3 และระดับประถม 1-6 จากนั้นให้สถานศึกษาสำรวจจัดทำบัญชีรายชื่อครูและบุคลากร แยกเป็นกลุ่มที่ยังต้องฉีดวัคซีนให้ครบ 2 เข็ม และกลุ่มที่ต้องการเข็มที่ 3 โดย ศธ. จะกำหนดแบบฟอร์มยินยอมฉีดวัคซีนให้

วันที่ 12-17 มกราคม 65 กระทรวงศึกษาธิการและกระทรวงสาธารณสุข จัดทำคลิป 3+3 นาที สื่อสารสาธารณะเพื่อสร้างความเข้าใจในข้อดี-ข้อเสียของการฉีดวัคซีนไฟเซอร์ในเด็กอายุ 5-12 ปี

วันที่ 17-20 มกราคม 65 กระทรวงสาธรณสุขส่งแบบฟอร์มยินยอมฉีดวัคซีน

วันที่ 17-24 มกราคม 65 สถานศึกษาเริ่มจัดประชุมสื่อสารข้อมูลสร้างความเข้าใจร่วมกับผู้ปกครอง

วันที่ 21-25 มกราคม 65 สถานศึกษาจัดประชุมหารือเพื่อรับการแจ้งความประสงค์จากผู้ปกครองให้นักเรียนอายุ 5-12 ปี วันที่ 30-31 มกราคม 65 สาธารณสุขจังหวัดจัดประชุมร่วมศึกษาธิการจังหวัด และผู้อำนวยการสถานศึกษาในจังหวัด แจ้งแผนกำหนดการฉีดวัคซีนให้นักเรียน สถานที่ และจำนวนรายวัน และกำหนดการฉีดวัคซีนแก่ครูและบุคลากรส่วนที่เหลือ วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 65 เริ่มฉีดวัคซีนเข็มที่ 1 และวันที่ 26 กุมภาพันธ์ 65 เริ่มการฉีดวัคซีนเข็มที่ 2 ให้นักเรียนอายุ 5-12 ปี

ด้านกระทรวงสาธารณสุข เสนอแผนการบริหารจัดการวัคซีนป้องกันโควิด-19 ให้ประชาชน ผ่านที่ประชุมศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. โดยเสนอให้ปรับฐานประชากรสำหรับกำกับติดตามการรับวัคซีน โดยใช้ฐานประชากรตามสิทธิการรักษาของสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) 66.78 ล้านคน ร่วมกับผู้ที่ไม่มีสิทธิการรักษาทั้งที่มีและไม่มีสัญชาติไทยจากแต่ละจังหวัด เป็น 67.74 ล้านคน

สำหรับแผนการบริหารวัคซีนเดือนกุมภาพันธ์ เพื่อให้คนไทยได้รับวัคซีนโดยสมัครใจ ผู้ที่ไม่เคยรับวัคซีนโควิดเข็ม 1 สามารถ Walk in ได้ที่สถานพยาบาลที่คณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด/กรุงเทพมหานคร (กทม.) กำหนดไว้ ส่วนแผนการสร้างเสริมภูมิคุ้มโควิด19 ในพื้นที่ท่องเที่ยว 4 จังหวัดคือ ภูเก็ต สุราษฎร์ธานี กระบี่ และพังงา รวมถึงพื้นที่ระบาด 6 จังหวัดคือ กทม. ชลบุรี สมุทรปราการ นนทบุรี กาญจนบุรี และปทุมธานี และเพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ขยายกลุ่มเป้าหมายฉีดเข็ม 4 จากเดิมให้ในบุคลากรทางการแพทย์ เจ้าหน้าที่ด่านหน้า และประชาชนกลุ่มเสี่ยง 608 เป็นประชากรทุกคน

ส่วนแนวทางการฉีดวัคซีนกระตุ้นเข็มที่ 3 ให้ผู้ที่รับเข็มที่ 1 เป็นซิโนแวค/ซิโนฟาร์ม เข็มที่ 2 เป็นแอสตร้าเซนเนก้า รับเข็มที่ 3 เป็นแอสตร้าเซเนก้า รับห่างจากเข็มที่ 2 เป็นเวลา 3 เดือนขึ้นไป , ผู้ที่รับเข็มที่ 1 เป็นแอสตร้าเซเนก้า เข็มที่ 2 เป็นแอสตร้าเซเนก้า ให้รับเข็มที่ 3 เป็นไฟเซอร์ โดยรับห่างจากเข็มที่ 2 เป็นเวลา 3 เดือนขึ้นไป

ส่วนแนวทางการฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นเข็มที่ 4 ให้ผู้ที่รับซิโนแวค 2 เข็ม ตามด้วยแอสตร้าเซเนก้า รับเข็มที่ 4 เป็นแอสตร้าเซเนก้า ห่างจากเข็มที่ 3 เป็นเวลา 3 เดือนขึ้นไป , ผู้ที่รับซิโนแวค 2 เข็ม ตามด้วยไฟเซอร์ ให้รับเข็มที่ 4 เป็นไฟเซอร์ ห่างจากเข็มที่ 3 เป็นเวลา 3 เดือนขึ้นไป

Related Posts

Send this to a friend