กรมควบคุมโรค เผย ปี 68 ไทยพบผู้ป่วยเบาหวานรายใหม่แล้ว 3.7 แสนราย เดินหน้ารณรงค์วันเบาหวานโลก
วันนี้ (14 พ.ย. 68) นพ.มณเฑียร คณาสวัสดิ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค เปิดเผยว่า วันที่ 14 พฤศจิกายนของทุกปีเป็น ‘วันเบาหวานโลก’ โดยปีนี้กำหนดประเด็นรณรงค์ภายใต้หัวข้อ ‘Diabetes and Well-being: Creating Healthy Workplace for All’ (สุขภาพดี เริ่มจากที่ทำงาน) มุ่งเน้นให้วัยทำงาน และประชาชนทั่วไป หันมาใส่ใจดูแลสุขภาพ สนับสนุนให้สถานที่ทำงานมีสภาพแวดล้อมที่ส่งเสริมกิจกรรมทางกาย และรับประทานอาหารที่ดีต่อสุขภาพ
ข้อมูลจากสมาพันธ์โรคเบาหวานนานาชาติ (IDF) ระบุว่า ทั่วโลกมีผู้ป่วยโรคเบาหวานถึง 589 ล้านคน มากกว่า 4 ใน 10 คนไม่ทราบว่าตนเองป่วย ในปี 2567 โรคเบาหวานเป็นสาเหตุการเสียชีวิต 3.4 ล้านราย หรือเฉลี่ย 1 รายทุก 9 วินาที ขณะที่ในไทย จากระบบคลังข้อมูลด้านการแพทย์และสุขภาพ (HDC) ปี 2568 พบผู้ป่วยรายใหม่ถึง 3.7 แสนราย
ทั้งนี้ โรคเบาหวานเกิดจากความผิดปกติของร่างกายในการผลิตฮอร์โมนอินซูลิน หรือภาวะดื้อต่ออินซูลิน ส่งผลให้ระดับน้ำตาลในเลือดสูง และร่างกายไม่สามารถใช้น้ำตาลที่อยู่ในกระแสเลือดไปใช้ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ
นพ.สุทัศน์ โชตนะพันธ์ รองอธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า ปัจจัยเสี่ยงสำคัญของโรคเบาหวานมาจากพฤติกรรมไม่พึงประสงค์ในการใช้ชีวิตประจำวัน เช่น รับประทานอาหารรสหวานจัด มันจัด เค็มจัด มีกิจกรรมทางกายไม่เพียงพอ สูบบุหรี่ หรือบุหรี่ไฟฟ้า ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ มีภาวะอ้วน และโรคความดันโลหิตสูง
โรคเบาหวานมักไม่แสดงอาการ แต่จะแสดงอาการเมื่อเป็นมานานระยะหนึ่ง อาการที่ควรสังเกต ได้แก่ น้ำหนักลดโดยไม่ทราบสาเหตุ ตื่นมาปัสสาวะตอนกลางคืนมากกว่า 1 ครั้ง ปัสสาวะบ่อยและมีปริมาณมาก อ่อนเพลีย เหนื่อยง่าย หิวน้ำบ่อย กินจุ หิวบ่อย มีปื้นดำที่คอ หากรักษาล่าช้า หรือควบคุมน้ำตาลในเลือดไม่ได้ อาจเกิดภาวะแทรกซ้อน เช่น โรคหลอดเลือดสมอง โรคหัวใจ ไตวายจากเบาหวาน เบาหวานขึ้นจอประสาทตา เส้นประสาทเสื่อม ชาปลายมือปลายเท้า เป็นแผลง่ายหายยาก รุนแรงอาจต้องตัดเท้า
นพ.กฤษฎา หาญบรรเจิด ผู้อำนวยการกองโรคไม่ติดต่อ กล่าวว่า สถานที่ทำงานสามารถส่งเสริมบุคลากรให้มีสุขภาพที่ดี สนับสนุนกิจกรรมที่สร้างเสริมสุขภาพ ป้องกันก่อนเกิดโรคได้ด้วยการเข้ารับการตรวจสุขภาพประจำปี โดยเฉพาะผู้ที่มีอายุ 35 ปีขึ้นไป ซึ่งค่าระดับน้ำตาลในเลือดเกณฑ์ปกติควรต่ำกว่า 100 มิลลิกรัมต่อเดซิลิตร
ทั้งนี้ ควรควบคุมน้ำหนักให้เหมาะสม (ค่าดัชนีมวลกาย BMI 18.5–22.9 กิโลกรัมต่อตารางเมตร) เลือกรับประทานอาหารที่ดีต่อสุขภาพ เลี่ยงหวาน มัน เค็ม ไม่สูบบุหรี่ หรือบุหรี่ไฟฟ้า ไม่ดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ ออกกำลังกายอย่างน้อย 30 นาทีต่อวัน หรือสะสม 150 นาทีต่อสัปดาห์ จัดการความเครียด นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ












