เตือน สุราส่งผลต่อร่างกายของเด็กมากกว่าผู้ใหญ่หลายเท่า ทำลายสมอง-ระบบต่าง ๆ ในร่างกาย ส่งผลระยะยาวต่อพัฒนาการทางสมอง
นพ.สกานต์ บุนนาค รองอธิบดีกรมการแพทย์ กล่าวว่า สุราเป็นเครื่องดื่มที่มีเอทิลแอลกอฮอล์เป็นส่วนประกอบสำคัญ ออกฤทธิ์กดระบบประสาทส่วนกลาง ไม่เหมาะสมสำหรับให้เด็กดื่ม ในผู้ใหญ่เมื่อดื่มสุราเข้าสู่ร่างกายจะถูกดูดซึมและกระจายไปทุกส่วนของร่างกายภายในเวลา 5 นาที เมื่อมีการดื่มในช่วงแรกจะทำให้ร่างกายมีระดับแอลกอฮอล์ในเลือดอยู่ที่ประมาณ 50 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ เมื่อมากกว่า 200 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ จะทำให้ผู้ดื่มเกิดอาการสับสน มากกว่า 300 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ ทำให้เกิดอาการง่วง สับสน ซึม มึนงง และถ้ามากกว่า 400 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ขึ้นไป อาจทำให้สลบ
การก่อพิษของแอลกอฮอล์ในเด็กกับผู้ใหญ่ไม่ต่างกัน เพียงแต่ในปริมาณการดื่มที่เท่ากันความเข้มข้นของแอลกอฮอล์ในเลือดของเด็กจะมากกว่าเนื่องจากน้ำหนักตัวเด็กที่น้อยกว่าผู้ใหญ่ และโครงสร้างที่ป้องกันสารพิษในระบบไหลเวียนเลือดไปสู่สมองของเด็กพัฒนาการยังไม่เต็มที่ ทำให้สารพิษเข้าสู่สมองได้มากกว่าผู้ใหญ่ รวมถึงอวัยวะต่าง ๆ ตับและไต ที่พัฒนายังไม่เต็มที่ ทำให้การขับสารพิษออกจากร่างกายได้ช้ากว่าผู้ใหญ่
นพ.สรายุทธ์ บุญชัยพานิชวัฒนา ผู้อำนวยการสถาบันบำบัดรักษาและฟื้นฟูผู้ติดยาเสพติดแห่งชาติบรมราชชนนี (สบยช.) กล่าวว่า การที่เด็กดื่มสุรา หรือเครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ทุกชนิด ทั้งที่ตั้งใจ หรือจะดื่มด้วยความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ เป็นเรื่องที่อันตรายต่อสุขภาพของเด็กมาก เครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์จะส่งผลต่อร่างกายของเด็กได้มากกว่าผู้ใหญ่หลายเท่า ทั้งทำลายสมองและระบบต่าง ๆ ในร่างกาย ส่งผลระยะยาวต่อพัฒนาการทางสมอง ทำให้เด็กสูญเสียความสามารถในการจดจำ ความคิดสร้างสรรค์ถูกทำลาย
การที่สมาชิกในครอบครัวดื่มสุราให้เด็กเห็นเป็นประจำ มีแนวโน้มที่เด็กจะโตขึ้นมาเป็นนักดื่มมีมากกว่าปกติถึง 4 เท่า จึงย้ำเตือนถึงผู้ใหญ่ควรให้เวลาในการดูแลบุตรหลานให้มากขึ้น หาเวลาทำกิจกรรมร่วมกัน หมั่นสังเกตพฤติกรรมหากพบว่ามีพฤติกรรมเสี่ยงเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับยาและสารเสพติด รวมถึงสุราและบุหรี่ ควรรีบบอกกล่าวถึงโทษและอันตราย สามารถขอรับคำปรึกษาได้ที่สายด่วนบำบัดยาเสพติด 1165 หรือเข้ารับการบำบัดรักษายาเสพติดได้ที่สถาบันบำบัดรักษาและฟื้นฟูผู้ติดยาเสพติดแห่งชาติบรมราชชนนี กรมการแพทย์ จังหวัดปทุมธานี และโรงพยาบาลธัญญารักษ์ในส่วนภูมิภาคทั้ง 6 แห่ง