แสนสิริผนึกพันธมิตรรับมือแผ่นดินไหว เสนอแนวทางยกระดับมาตรฐานอสังหาริมทรัพย์ไทย

วันนี้ (27 พ.ค. 68) บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) ร่วมกับพันธมิตรในภาคอสังหาริมทรัพย์ จัดงานเสวนา “BEYOND THE BLUEPRINTS: 60 วัน หลังแผ่นดินไหว ก้าวต่อด้วยพลังความร่วมมือ” เพื่อระดมความคิดเห็นและเสนอแนวทางการยกระดับมาตรฐานความปลอดภัยของอาคารในประเทศไทย โดยเฉพาะการรับมือกับเหตุการณ์แผ่นดินไหว ภายหลังเหตุการณ์ที่ผ่านมาซึ่งถือเป็นบทพิสูจน์ความแข็งแกร่งของอุตสาหกรรม
ศาสตราจารย์ ดร.เป็นหนึ่ง วานิชชัย จากสถาบันเทคโนโลยีแห่งเอเชีย (AIT) และผู้อำนวยการศูนย์วิจัยแผ่นดินไหวแห่งชาติ กล่าวว่า ปัจจุบันภาคอสังหาริมทรัพย์ไทยมีความก้าวหน้าด้านมาตรฐานการออกแบบอาคารต้านทานแผ่นดินไหว โดยเฉพาะกฎกระทรวงปี 2564 และมาตรฐาน มยผ. 1301/1302-61 ที่กำหนดให้การก่อสร้างอาคารใหม่ต้องมีมาตรฐานความปลอดภัยสูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ ผู้ประกอบการรายใหญ่ส่วนใหญ่ได้ปฏิบัติตามและนำเทคโนโลยีทันสมัยมาใช้ อย่างไรก็ตาม การออกแบบและก่อสร้างที่ถูกต้องตามกฎหมายยังคงเป็นสิ่งสำคัญที่สุด พร้อมเสนอให้นำนวัตกรรมจากต่างประเทศ เช่น อุปกรณ์ดูดซับพลังงานการสั่นไหว (Viscous Dampers หรือ Oil Dampers) มาปรับใช้ และเน้นย้ำการสร้างความตระหนักรู้แก่ประชาชนเกี่ยวกับความเสี่ยงและแนวทางการเตรียมพร้อมรับมือ
นายอุทัย อุทัยแสงสุข กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) ระบุว่า จากประสบการณ์กว่า 40 ปีในการพัฒนาคอนโดมิเนียมกว่า 225 โครงการ รวมกว่า 90,000 ยูนิต แสนสิริเห็นว่าเหตุการณ์แผ่นดินไหวครั้งนี้เป็นจุดเปลี่ยนสำคัญในการยกระดับมาตรฐานอุตสาหกรรม ปัจจัยสำคัญที่ช่วยให้บริษัทผ่านพ้นสถานการณ์คือเครือข่ายพันธมิตรที่แข็งแกร่ง ประกอบด้วย พลัส พร็อพเพอร์ตี้ ผู้ดูแลนิติบุคคล, ผู้รับเหมารายใหญ่, ที่ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ, ทีมบำรุงรักษาลิฟต์ และบริษัทประกันภัย แสนสิริมุ่งพัฒนาการทำงานให้แข็งแกร่งขึ้นผ่านการทบทวนคู่มือก่อสร้างจากข้อมูลเหตุการณ์จริง การซ้อมแผนฉุกเฉิน และการพัฒนาระบบเตือนภัย โดยมีเป้าหมายเพื่อที่พักอาศัยที่แข็งแรงและปลอดภัย ภายใต้หลักการทำงาน 3 ด้าน คือ คุณภาพที่เหนือมาตรฐาน (Quality) บริการต่อเนื่อง (Service) และการส่งมอบคุณภาพชีวิตที่ดี (Well-being)
นายบริสุทธิ์ กาสินพิลา ประธานกรรมการบริหาร บริษัท โฮมบายเออร์ ไกด์ จำกัด กล่าวว่า บริษัทอสังหาริมทรัพย์ขนาดใหญ่หลายแห่งมีการตอบสนองที่รวดเร็วในการตรวจสอบอาคารและสื่อสารกับลูกบ้าน ช่วยลดความตื่นตระหนก แม้เหตุการณ์แผ่นดินไหวจะส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นในระยะสั้น แต่สำหรับแบรนด์ที่แสดงความรับผิดชอบและมีโครงการที่ปลอดภัยจะได้รับความเชื่อมั่นมากขึ้น ตลาดอสังหาริมทรัพย์ในระยะยาวจะสามารถปรับตัวและฟื้นตัวได้ โดยการบริการหลังการขาย (After Sale Service) จะเป็นหัวใจสำคัญ พร้อมทั้งการพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้ตรงความต้องการของตลาดเฉพาะกลุ่ม เช่น กลุ่มผู้สูงอายุ
นายองอาจ สุวรรณกุล ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการอาวุโสสายงานพัฒนาโครงการคอนโดมิเนียม แสนสิริ เปิดเผยถึงการบริหารจัดการสถานการณ์ในช่วงเกิดเหตุ โดยมุ่งความปลอดภัยของลูกบ้านเป็นหลัก มีการจัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการ (War Room) ระดมกำลังทุกหน่วยงาน ประสานงานกับผู้เชี่ยวชาญ และจัดทำคู่มือตรวจสอบโครงสร้างอาคาร ลิฟต์ และระบบต่างๆ อย่างละเอียด ผลการตรวจสอบทุกโครงการของแสนสิริยืนยันว่าโครงสร้างอาคารปลอดภัย 100% บริษัทฯ ยังได้อำนวยความสะดวกในการเคลมประกันให้ลูกบ้าน และจะนำข้อมูลจากศูนย์ดูแลความปลอดภัย LIV-24 มาศึกษาเพื่อปรับปรุงการรับมือวิกฤตในอนาคต รวมถึงการพัฒนาแนวทางการออกแบบโครงสร้างอาคารสูงให้ยืดหยุ่นมากขึ้นโดยร่วมมือกับสถาบันการศึกษาและพันธมิตร
ด้านผู้เชี่ยวชาญจากภาคส่วนต่างๆ ได้ร่วมแสดงความคิดเห็น โดย ดร.วีระศักดิ์ วานิชวัฒน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ฑีฆาก่อสร้าง จำกัด (มหาชน) เน้นย้ำการยกระดับความพร้อมอย่างเป็นระบบ การออกแบบตามหลักวิศวกรรม การใช้วัสดุคุณภาพ และการสร้างจิตสำนึกความปลอดภัย พร้อมเสนอให้ใช้วัสดุก่อสร้างสำเร็จรูปมากขึ้น ขณะที่นายกฤษฎา แท้ประสาทสิทธิ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท อินฟรา กรุ๊ป จำกัด ชี้ว่าสาเหตุอาคารถล่มมักมาจากหลายปัจจัยประกอบกัน (Bad Conditions) จึงจำเป็นที่ทุกฝ่ายตั้งแต่เจ้าของโครงการ ผู้ออกแบบ และผู้รับเหมาต้องเคารพในวิชาชีพและมีความรับผิดชอบ
นางนฤมล อาภรณ์ธนกุล ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการฝ่ายบริหารอาคารที่พักอาศัย บริษัท พลัส พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด กล่าวถึงการบริหารจัดการโครงการกว่า 400 แห่ง โดยมีการจัดตั้ง War Room สื่อสารข้อมูลที่ถูกต้อง และตรวจสอบอาคารพร้อมอำนวยความสะดวกการเคลมประกัน และมองว่าอนาคตควรพัฒนาศูนย์ข้อมูล (Data Center) เพื่อเข้าถึงข้อมูลลูกค้ากลุ่มเปราะบางในภาวะฉุกเฉิน และการใช้เทคโนโลยี AI อย่าง LIV-24 เพื่อความปลอดภัย รวมถึงการฝึกอบรมการรับมือเหตุฉุกเฉินอย่างต่อเนื่อง
นายวิญญู อังศุนิตย์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัท วิริยะประกันภัย จำกัด (มหาชน) กล่าวถึงความท้าทายในการรับมือการเคลมประกันจำนวนมาก โดยได้เร่งกระบวนการพิจารณาและจ่ายสินไหมอย่างเป็นธรรม พร้อมควบคุมราคาค่าซ่อมแซม และทำงานร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) และสมาคมประกันวินาศภัยไทย เพื่อส่งเสริมความรู้ด้านประกันภัยแก่ประชาชน
โดยสรุป ภาคอสังหาริมทรัพย์ไทยกำลังมุ่งสร้างความเชื่อมั่นและความยั่งยืน แสนสิริพร้อมร่วมมือกับทุกภาคส่วนเพื่อวางรากฐานที่แข็งแกร่งสำหรับอนาคต