สิงห์ เอสเตท กวาดรายได้ 6,843 ล้านบาท ครึ่งปีแรก 2566 เดินหน้า หวังบรรลุเป้ารายได้ครึ่งปีหลัง
สิงห์ เอสเตท เผยรายได้รวมจากการขายและการบริการสำหรับครึ่งปีแรกของปี 2566 จำนวน 6,843 ล้านบาท พร้อมเร่งพัฒนาโครงการบ้านแนวราบ 5 โครงการ มูลค่ารวม 10,000 ล้านบาท เปิดตัวโครงการแรกเดือนกันยายน พร้อมเปิดตัวธุรกิจนิคมอุตสาหกรรมและโรงไฟฟ้าช่วงปลายปีนี้
บริษัท สิงห์ เอสเตท จำกัด (มหาชน) ประกาศรายได้รวมจำนวน 6,843 ล้านบาท และรายงานกำไรก่อนหักดอกเบี้ย ภาษี ค่าเสื่อมราคา และจากการรายการที่ไม่ได้เกิดขึ้นประจำดำเนินงานปกติ ที่ 1,493 ล้านบาท พุ่งขึ้น 33% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน พร้อมกางแผนครึ่งปีที่เหลือ ขับเคลื่อนธุรกิจให้ขยายตัวต่อเนื่อง ด้วยการเปิดตัวโครงการที่พักอาศัยระดับลักชัวรี 5 โครงการ มูลค่ารวม 10,000 ล้านบาท ตามแผน โดยบ้านเดี่ยวโครงการแรก เริ่มเปิดตัวในเดือนกันยายน ส่วนทิศทางการเติบโตสูงสุดของธุรกิจโรงแรมโดยเฉพาะในไตรมาส 4 จากนักท่องเที่ยวต่างชาติ และอสังหาริมทรัพย์เพื่อการพาณิชย์ยังคงเดินตามแผนงาน เตรียมเปิดธุรกิจนิคมอุตสาหกรรมและโรงไฟฟ้าช่วงปลายปีนี้ สำหรับรายได้จากการขายอสังหาริมทรัพย์ของบริษัทฯ ประกอบด้วย
1.ยอดโอนกรรมสิทธิ์อสังหาริมทรัพย์เพื่อการพักอาศัยสะสม 6 เดือนจำนวน 1,172 ล้านบาท ด้วยราคาขายสูงสุด 550 ล้านบาทต่อหลัง
2.รายได้จากการขายที่ดินนิคมอุตสาหกรรม 36 ล้านบาท
3.การรับรู้ค่าเช่าของโครงการสิงห์ คอมเพล็กซ์ ตามสัญญาเช่าพื้นที่ระยะยาว 175 ล้านบาท
ทั้งนี้ รายได้จากการให้บริการของบริษัทฯ นั้น เติบโตขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ มีสาเหตุสำคัญมาจากรายได้ของธุรกิจโรงแรมที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น 28% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน สู่ 4,821 ล้านบาท รวมทั้งพอร์ตโฟลิโอที่ปรับสูงขึ้นประมาณ 70% ในครึ่งปีแรกของปี 2566 ด้วยอัตราค่าห้องพักเฉลี่ยรายวัน ที่เพิ่มขึ้นมากกว่า 10% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันในปีก่อน อย่างไรก็ตาม รายได้จากธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เพื่อการพาณิชย์ในช่วงครึ่งปีแรก 508 ล้านบาท ค่อนข้างทรงตัวจากช่วงเดียวกันของปีก่อน แต่มีแนวโน้มปรับตัวดีขึ้นในช่วงครึ่งปีหลัง
นางฐิติมา รุ่งขวัญศิริโรจน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สิงห์ เอสเตท จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ช่วง 6 เดือนที่ผ่านมานี้ เป็นช่วงที่กำลังสร้างความพร้อมเพื่อต่อยอดในอีกขั้นหนึ่ง ซึ่งจะเห็นผลชัดขึ้นในช่วงครึ่งปีหลัง ต่อเนื่องไปจนถึงปี 2567 ประกอบไปด้วย
1.การพัฒนาโครงการที่พักอาศัย 5 โครงการ มูลค่ารวมกว่า 10,000 ล้านบาท
2.การปรับปรุงโรงแรม หรือ Major Renovation ของโรงแรม ได้แก่ โรงแรม Outrigger Fiji Beach Resort, โรงแรม ทราย ลากูน่า ภูเก็ต, โรงแรม ทราย พีพี ไอซ์แลนด์ วินเลจ และโรงแรมบางส่วนในสหราชอาณาจักรตามกลยุทธ์ Asset Rotation
3.การปรับกลยุทธ์การหาผู้เช่าในกลุ่มธุรกิจอาคารสำนักงาน
4.การควบคุมแผนการก่อสร้างโรงไฟฟ้าและพัฒนาที่ดินนิคมอุตสาหกรรมเชิงนิเวศเอส อ่างทอง
“สิงห์ เอสเตท มีความมั่นใจที่จะขับเคลื่อนรายได้ตามเป้าหมายที่เราวางไว้ทั้งปี กว่า 16,000 ล้านบาท พร้อมวางรากฐานที่แข็งแกร่งสำหรับต่อยอดการเติบโตให้กับผลการดำเนินงานในปีถัด ๆ ไป นอกจากนี้ เราประสบความสำเร็จในการขายหุ้นกู้ ซึ่งได้รับการตอบรับจากผู้ลงทุนอย่างล้นหลาม ด้วยมูลค่าเสนอขายทั้งสิ้น 1,700 ล้านบาท สำหรับรองรับการขยายธุรกิจเพื่อเดินหน้าสู่ความเป็นเลิศของผลประกอบการ ด้วยพันธสัญญาในการสร้างผลตอบแทนที่ดีให้กับผู้ถือหุ้น และสร้างคุณค่าที่ยังยืนให้แก่ผู้มีส่วนได้เสียทุกกลุ่ม” นางฐิติมา กล่าว












