เปิดที่มา ‘มหากาพย์นายหน้า’ เชื่อมโยงเครือข่ายสแกมเมอร์-นักธุรกิจ-การเมืองไทย ขอรัฐบาลตรวจสอบเพื่อความโปร่งใส
วันที่ 21 ต.ค. 68 น.ส. สฤณี อาชวานันทกุล ผู้เชี่ยวชาญด้านการเงิน เปิดเผยว่า ตนยังคงติดตามการตรวจสอบกรณีที่ได้เปิดแผนผัง ‘มหากาพย์นายหน้า’ ที่ตั้งข้อสงสัยถึงการถือหุ้นและการทำธุรกรรมของกลุ่มธุรกิจไทยที่อาจจะเกี่ยวข้องกับเครือข่ายสแกมเมอร์
จากการสืบสวนของ Tom Wright สู่แผนผัง ‘มหากาพย์นายหน้า’
น.ส. สฤณี เปิดเผยกับ The Reporters จุดเริ่มต้นของการเริ่มสืบสวนหาข้อมูลจนพบ ‘มหากาพย์นายหน้า’ มาจากที่ส่วนตัวเธอสนใจเรื่องการเงิน จึงนำรายชื่อนิติบุคคลที่ ทอม ไรต์ ซึ่งเป็นอดีตนักข่าวของ Wall Street Journal ได้ทำการสืบสวนสอบสวนเครือข่ายสแกมเมอร์กว่า 2 ปี และได้เปิดเว็บไซต์ข่าว Whale Hunting เปิดโปง เครือข่ายการเงินจีน-กัมพูชาได้รับการคุ้มครองจากนักการเมืองไทย และการเปิดข้อมูลที่เชื่อมโยงบทบาทของ ชายชาวแอฟริกาใต้ที่ชื่อ Benjamin Mauerberger หรือ ‘เบน สมิธ’ ที่อ้างว่าจัดซื้อเครื่องบินเจ็ตส่วนตัวให้นายทักษิณ ชินวัตร กับ Yim Leak ‘ยิม เลียก’ นักธุรกิจชาวกัมพูชา ซึ่งต่อมานายรังสิมันต์ โรม สส. บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ได้อภิปรายตั้งข้อสงสัยถึงความเชื่อมโยงของเครือข่ายนี้กับนักการเมืองไทยระดับรัฐมนตรีในรัฐบาลชุดใหม่ ซึ่งต่อมา ร.อ. ธรรมนัส พรหมเผ่า รองนายกรัฐมนตรีและ รมว. กระทรวงเกษตรฯ ออกมาปฏิเสธไม่เกี่ยวข้องกับ เบน สมิธ
นอกจากนี้ทั้ง เบน สมิธ และ ยิม เลียก มีชื่ออยู่ในบัญชีเครือข่ายสแกมเมอร์ ในร่างกฎหมายใหม่ ‘Dismantle Foreign Scam Syndicates Act’ ของสภาคองเกรสสหรัฐอเมริกา ที่ต้องการคว่ำบาตรกลุ่มธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการหลอกลวงสร้างความเสียหายกับชาวอเมริกัน
“ส่วนตัวสนใจเรื่องการเงิน จึงเอาชื่อนิติบุคคลที่ทอม ไรต์ได้เปิดมา จึงเอาชื่อนิติบุคคลมาค้น ในกรมพัฒนาธุรกิจการค้า พบการธุรกรรมในตลาดทุน เจอความเชื่อมโยง หุ้นบางตัว อยู่ใน Bic Bank Cambodia โดยพบว่า ‘ยิม เลียก’ มีชื่อในร่างกฎหมายที่สภาคองเกรสสหรัฐฯ อยากผ่าน เป็นแซงก์ชันลิสต์ ที่ระบุว่าเชื่อมโยงกับเครือข่ายสแกมเมอร์ ซึ่งยิม เลียก แต่งงานกับคนไทย มีตัวตนประมาณหนึ่ง และเมื่อนำข้อมูลธนาคาร BIC มาเทียบเคียงข้อมูลธุรกรรมของกรมพัฒนาธุรกิจการค้า ก็เจอตัวละครต่าง ๆ อย่างที่ปรากฏในแผนผัง มหากาพย์นายหน้า”
น.ส. สฤณี เปิดเผยว่า เมื่อตนไปสืบค้นข้อมูลกับพบความเชื่อมโยงใน 5 กลุ่มธุรกิจสำคัญ คือ 1.กลุ่มพลังงาน 2.เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์และคาสิโน 3.สถาบันการเงิน 4.อสังหาริมทรัพย์ 5.ตลาดเงินคริปโต ซึ่งพบว่ามีนักธุรกิจคนไทยเข้าไปเกี่ยวข้องเชื่อมโยงถือหุ้นในกลุ่มบริษัทเหล่านี้ด้วย
“ถ้าเราเป็นนักธุรกิจสแกมเมอร์ในกัมพูชา ได้เงินจำนวนมากมาแล้ว ต้องหาทางฟอกเงิน ซึ่งเงินที่แก๊งคอลเซ็นเตอร์พวกนี้หามาได้ก็มาจากการทรมานคน เป็นการค้าทาสสมัยใหม่ มีการละเมิดสิทธิเยอะมาก ถ้าเราเป็นนักธุรกิจที่ฟอกเงินเหล่านี้ อยากได้อะไรมาฟอกเงิน”
น.ส. สฤณี ชี้ให้เห็นว่า วิธีการฟอกเงินของเครือข่ายสแกมเมอร์ อย่างที่เห็นจากเครือข่าย Prince Group ที่ทางการสหรัฐฯ ยื่นฟ้องฐานหลอกลวงออนไลน์และยึดทรัพย์เกือบ 5 แสนล้านบาทนั้น ก็ทำให้เห็นวิธีการของเครือข่ายเหล่านี้ ถ้าต้องการฟอกเงิน แน่นอนว่าอยากได้ธุรกิจพลังงาน ซึ่งจะช่วยฟอกได้อย่างไร เช่น การเข้าไปถือหุ้นในบริษัทค้าขายที่จดทะเบียนต่างประเทศ และทำไมต้องการเอนเตอร์เทนเมนต์ และคาสิโน เพราะเป็นกลไกยอดฮิตของการฟอกเงิน รวมถึงธนาคาร ถามว่าทำไมอยากได้ เพราะเป็นจุดที่สามารถเอาเงินสกปรก เข้าระบบธนาคาร เข้ามาทำให้ใสสะอาด
“ถ้าเจ้าของคอลเซ็นเตอร์ยิ่งใหญ่เป็นเจ้าของธนาคาร แบบ Prince Group เงินคริปโต ก็เป็นแหล่งยอดนิยมเกี่ยวกับการฟอกเงิน ดังนั้นถ้ายิม เลียก และเบนจามิน ทำธุรกิจทุกอย่างถูกต้องไม่เกี่ยวอะไรกับคอลเซ็นเตอร์ในกัมพูชา จากเอกสารที่ค้นไม่มีอะไรผิด เพราะไม่เกี่ยวกับธุรกิจสแกมเมอร์ คนไทยที่เกี่ยวข้องในแผนผังก็ไม่ผิด ก็ต้องชี้แจงได้”
น.ส. สฤณี ย้ำว่าเหตุผลที่เธอเปิดเผยเรื่องนี้เพราะอยากเห็นการตรวจสอบ เมื่อพบธุรกิจไทย นักธุรกิจ นักการเมือง กลุ่มบุคคล เข้าไปเกี่ยวข้อง ถ้าไม่ผิดก็สามารถชี้แจงได้ และถ้ามีการเข้าไปในตลาดทุน คณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ต้องตรวจสอบว่ามีการเทคโอเวอร์ การถือหุ้นมีความผิดปกติหรือไม่ เป็นหน้าที่ของ ก.ล.ต. ในการแสวงหาความร่วมมือในการตรวจสอบเพื่อสร้างความโปร่งใสในตลาดทุนด้วย
ซึ่งจากแผนผัง ‘มหากาพย์นายหน้า’ ของ น.ส. สฤณี พบว่า ในความเชื่อมโยงทางธุรกิจของ เบนจามิน เมาเออร์เบอร์เกอร์ และ ยิม เลียก มีคนไทยเกี่ยวข้องด้วย 11 คน ซึ่งมีทั้งนักธุรกิจ และนักการเมือง หนึ่งในนั้น มีนายวรภัค ธันยาวงษ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ในรัฐบาล นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี และ รมว. กระทรวงมหาดไทย รวมอยู่ด้วย
โดยล่าสุดนายวรภัค ยอมรับว่าเคยให้คำปรึกษากับ ‘ยิม เลียก’ แต่ไม่ได้เกี่ยวข้องในการทำธุรกิจร่วมกัน และเตรียมแถลงข่าวในเร็ว ๆ นี้ ส่วนคนอื่น ๆ ยังไม่มีการออกมาชี้แจง
น.ส. สฤณี ได้ตั้งคำถามด้วยว่า ถ้าแก๊งคอลเซ็นเตอร์อยากใช้ไทยเป็นฐานการฟอกเงินและมีสายสัมพันธ์แนบแน่นกับนักการเมืองที่มีอำนาจในไทย จะอยากได้อะไรมาก เพื่อฟอกเงินสกปรกของพวกเขา หากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะทำการสืบสวนสอบสวน ตั้งต้นจากแผนผังมหากาพย์นายหน้าของเธอ ก็ยินดีให้ข้อมูล ซึ่งน่าจะเป็นโอกาสสำคัญของรัฐบาลไทยในการจัดการเครือข่ายสแกมเมอร์ คอลเซ็นเตอร์เหล่านี้ให้ได้ด้วยซ้ำ
The Reporters กำลังทำการสืบสวนสอบสวนความเชื่อมโยงเครือข่ายสแกมเมอร์ ซึ่งพบความเกี่ยวข้องกับกลุ่มจีนเทาที่สร้างเครือข่ายสแกมเมอร์ทั้งในกัมพูชา ลาว และเมียนมา รวมถึง 43 รายชื่อใน Sanction List ของสหรัฐอเมริกา พบความเชื่อมโยงกับหลายกลุ่มในประเทศไทยด้วย
รายงาน: ฐปณีย์ เอียดศรีไชย












