ฟาสต์ ออโต โชว์ 2024 มีผู้สนใจรถยนต์ไฟฟ้าเพิ่มขึ้น แนะผู้บริโภคเช็คความพร้อม 6 ข้อ
นายพัฒนเดช อาสาสรรพกิจ ประธานจัดงาน ฟาสต์ ออโต โชว์ 2024 งานซื้อ-ขายรถครบวงจรช่วงกลางปี เผยบรรยากาศงานปีนี้ มีผู้สนใจทดลองขับ และเลือกซื้อรถไฟฟ้าภายในงานมากขึ้นกว่าปีที่ผ่านมา ซึ่งปัจจัยสำคัญที่ทำให้รถไฟฟ้าได้รับความนิยมมากขึ้น คือ ราคาที่เข้าถึงได้ง่ายขึ้น ความหลากหลายของแบรนด์และรุ่นที่เปิดตัวในไทย แต่ผู้บริโภคควรเช็คความพร้อม 6 ข้อ เพื่อให้แน่ใจการใช้งาน พฤติกรรม และไลฟ์สไตล์ของตนเองเหมาะกับการใช้รถไฟฟ้า ดังนี้
1.ที่อยู่อาศัยมีความพร้อมในการติดตั้งที่ชาร์จแบตเตอรี่ เพราะผู้ที่ใช้รถไฟฟ้าควรมีจุดชาร์จส่วนตัวและติดตั้งอุปกรณ์ชาร์จไว้บริเวณที่จอดรถในบ้าน หากอาศัยในห้องเช่า หรือคอนโดมิเนียมที่ไม่มีที่จอดรถส่วนตัวอาจไม่ค่อยสะดวกเมื่อต้องขับออกไปหาที่ชาร์จไฟรถตลอดการใช้งาน
2.การใช้งานประจำวันไม่ควรเกิน 75% ของกำลังแบตเตอรี่ หากสเป็กรถไฟฟ้าเป้าหมายที่จะเลือกซื้อระบุว่าสามารถวิ่งได้ 480 กม.ต่อหนึ่งการชาร์จไฟ ระยะทางวิ่งในชีวิตประจำวันไม่ควรเกิน 75% หรือ 360 กม. เพราะพลังงานที่เหลืออีก 25% ต้องสำรองไว้เผื่อมีเหตุไม่คาดคิดที่ต้องอยู่บนท้องถนนนาน หรือมีธุระจำเป็นต้องใช้งานเกินกว่าระยะทางปกติ
3.วางแผนการเดินทางและมีความอดทนในการรอคิวชาร์จไฟ อีกทั้งผู้ใช้รถไฟฟ้าต้องมีข้อมูลเรื่องจุดบริการชาร์จไฟสาธารณะ โดยเฉพาะเมื่อต้องเดินทางไกลข้ามจังหวัดหรือใช้รถต่อเนื่อง
4.ชื่นชอบพร้อมทดลองเทคโนโลยีใหม่ ๆ รถไฟฟ้ามีเทคโนโลยีและฟังก์ชันใช้งานใหม่ ๆ หลายอย่างแตกต่างจากรถยนต์เครื่องยนต์สันดาป หากเป็นผู้ที่เปิดรับ สนุกกับการใช้งานฟีเจอร์ใหม่ ๆ การเลือกใช้รถไฟฟ้าจะเป็นความสุขของผู้ใช้
5.สามารถเอาชนะใจตนเองเมื่อมีรถรุ่นใหม่เปิดตัว เพราะตลาดรถไฟฟ้ามีลักษณะคล้ายกับสมาร์ทโฟน รุ่นที่ออกใหม่มักจะน่าสนใจและดึงดูดกว่ารุ่นเดิม มักมาพร้อมกับเทคโนโลยีที่ล้ำสมัยกว่า
6.มีวินัยทางการเงินและยอมรับว่าส่วนต่างค่าน้ำมันไม่ใช่ของได้ฟรี การใช้ไฟฟ้าช่วยประหยัดค่าน้ำมันได้มากก็จริง แต่ผู้ใช้รถควรต้องแบ่งเก็บเงินส่วนที่ประหยัดนี้สำหรับค่าเปลี่ยนแบตเตอรี่ในอนาคต ซึ่งเป็นประเด็นที่ผู้ใช้รถไฟฟ้าต้องเตรียมพร้อม
นายพัฒนเดช กล่าวเพิ่มเติมว่า การเลือกซื้อรถไฟฟ้าก็เหมือนกับการซื้อรถยนต์อื่น ๆ คือ นอกจากจะเลือกให้ตรงวัตถุประสงค์การใช้งานแล้ว ผู้ซื้อจะต้องคำนึงถึงค่าใช้จ่ายแฝงที่จะมีตามมาหลังจากการซื้อรถแล้ว เช่น การซ่อมบำรุงรักษารถ ค่าประกัน ภาษี ค่าเปลี่ยนยางรถยนต์ใหม่ตามระยะ และค่าเปลี่ยนแบตเตอรี่เมื่อถึงระยะเวลา ดังนั้น ผู้ใช้รถจึงควรต้องเตรียมเงินสำรองในส่วนดังกล่าวไว้
