มหาดไทย สั่งผู้ว่าฯ ทั่วประเทศ คุมเข้มแผนจัดการมูลฝอย ต่อยอดสู่คาร์บอนเครดิต

มหาดไทย สั่งผู้ว่าฯ ทั่วประเทศ คุมเข้มแผนจัดการมูลฝอย ต่อยอดสู่คาร์บอนเครดิต
วันนี้ (27 ต.ค. 65) นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยว่า กระทรวงมหาดไทยได้จัดทำแผนปฏิบัติการจัดการขยะมูลฝอย “จังหวัดสะอาด” โดยมีเป้าหมายให้ทุกครัวเรือน ได้รับการส่งเสริมและจัดทำถังขยะเปียก ลดโลกร้อน เพื่อช่วยลดปริมาณก๊าซเรือนกระจก
ทั้งนี้ กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่นได้ ให้ทุกจังหวัดแจ้งอำเภอและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) ทุกแห่ง สำรวจและรายงานข้อมูลถังขยะเปียกลดโลกร้อนในระดับครัวเรือน ระดับโรงเรียนในสังกัด อปท. และศูนย์พัฒนาเด็กเล็กในสังกัด อปท.ในระบบสารสนเทศการจัดเก็บข้อมูล เพื่อนำข้อมูลไปประกอบการรับรองคาร์บอนเครดิต
ปัจจุบัน มีครัวเรือนที่จัดทำถังขยะเปียกลดโลกร้อนแล้ว 2,716,651 ครัวเรือน คิดเป็นจำนวนประชากร 9,175,452 คน ทำให้มีปริมาณขยะเปียกที่คัดแยกใส่ถังขยะเปียกลดโลกร้อน 843,958.07 ตัน/ปี คิดเป็นปริมาณก๊าซเรือนกระจกที่สามารถลดได้ 122,711.50 ตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า/ปี โดยมีจังหวัดที่ทำถังขยะเปียกครบถ้วน 100% จำนวน 2 จังหวัด คือ ลำพูน และสมุทรสงคราม
ปลัดกระทรวงมหาดไทย ยังกล่าวว่า เพื่อให้เกิดการลดหรือกักเก็บก๊าซเรือนกระจก ซึ่งปริมาณที่ลดหรือกักเก็บได้นั้น เรียกว่า “คาร์บอนเครดิต” ที่ดำเนินการโดย อปท. สามารถนำมาซื้อขายกันเพื่อชดเชยการปล่อยก๊าซเรือนกระจกขององค์กรต่างๆ โดย พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ได้ลงนามประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่อง การจัดการมูลฝอย (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2565 เพื่อกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการรองรับการบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจกอันเนื่องมาจากการจัดการมูลฝอยขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ซึ่งได้ประกาศในราชกิจจานุเบกษาแล้วและมีผลใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 26 ต.ค. 65 เป็นต้นไป
มีสาระสำคัญ ได้แก่ การกำหนดขั้นตอนการบริหารจัดการคาร์บอนเครดิตของ อปท. ทั้งขั้นตอนการขอรับรองปริมาณก๊าซเรือนกระจกที่ลดหรือกักเก็บได้ และบันทึกทะเบียนระบบคาร์บอนเครดิต และขั้นตอนการขายคาร์บอนเครดิต โดยดำเนินการตามระเบียบที่คณะกรรมการองค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจกกำหนด ซึ่งโครงการที่สามารถขอรับรองอาจเป็นโครงการ ที่ อปท.ดำเนินการเอง หรือกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่นอาจดำเนินการแทน อปท.ตามกฎหมายว่าด้วยการรักษาความสะอาดและการรักษาความเป็นระเบียบเรียบร้อยของบ้านเมือง
และสำหรับในการจัดตั้งงบประมาณเพื่อดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องกับการขอรับรองปริมาณก๊าซเรือนกระจกที่ลดหรือกักเก็บได้ของ อปท. สามารถดำเนินการได้ตามระเบียบกระทรวงมหาดไทยว่าด้วยวิธีการงบประมาณของ อปท. และระเบียบที่เกี่ยวข้อง และเมื่อโครงการของ อปท. ได้รับการรับรองจากองค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก (องค์การมหาชน) แล้ว อปท. จะได้รับคาร์บอนเครดิตตามปริมาณที่สามารถลดหรือกักเก็บได้จริง โดยเปิดบัญชีรองรับคาร์บอนเครดิตกับองค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก (องค์การมหาชน) ก่อนทำการซื้อขายคาร์บอนเครดิต
สำหรับโครงการถังขยะเปียกลดโลกร้อน ภายใต้แผนปฏิบัติการจัดการขยะมูลฝอยชุมชน “จังหวัดสะอาด” กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่นได้ทำการรับรองปริมาณก๊าซเรือนกระจกที่ลดหรือกักเก็บได้ เพื่อเป็นโครงการนำร่องสำหรับ อปท.ทั่วประเทศเรียบร้อยแล้ว ยกเว้นกรุงเทพมหานคร ซึ่ง อปท. สามารถนำแนวทางดังกล่าวมาใช้เพื่อทำการซื้อขายคาร์บอนเครดิตได้
