ENVIRONMENT

Saveนาบอน รอฟังผลการประชุมให้ได้ข้อสรุปเดิม- ทำ SEA ก่อนสร้างโรงไฟฟ้า

Saveนาบอน รอฟังการประชุมให้ได้ข้อสรุปตามคำสั่งเดิมของนายกรัฐมนตรี ให้ทำ SEA ก่อนสร้างโรงไฟฟ้า ‘ประสิทธิชัย’ ชี้แม้ต่อสู้กับรัฐตระบัตสัตย์ก็ต้องสู้ เชื่ออำนาจประชาชนและหลักวิชาการ

วันนี้ (25 ก.ค. 65) เป็นวันที่ 9 ที่กลุ่ม Saveนาบอน มาเรียกร้องที่กรุงเทพมหานคร โดยวันนี้กลุ่ม Save นาบอน ย้ายมาปักหลักบนสะพานชมัยมรุเชฐ ทำเนียบรัฐบาล หลังเมื่อคืนที่ผ่านมายกระดับการชุมนุมด้วยการไปปักหลักที่หน้าประตู 1 ทำเนียบรัฐบาล และเมื่อช่วง 08:30 น.ที่ผ่านมา มีเจ้าหน้าที่จากสำนักงานปลัด สำนักนายกรัฐมนตรี เข้ามาเจรจาว่าจะมีการเรียกประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งหมด เช่น กระทรวงพลังงาน ในเวลา 11:00 น.ของวันนี้ที่อาคาร กพร. จึงขอให้ย้ายมาบนสะพานชมัยมรุเชฐ

ขณะนี้ยังปักหลักอยู่เพื่อรอผลการประชุมว่าตรงตามสิ่งที่เรียกร้องให้รัฐบาลปฏิบัติตามคำสั่งนายกรัฐมนตรี ลงวันที่ 24 ธันวาคม 2564 ที่ระบุให้มีการศึกษาผลกระทบเชิงยุทธศาสตร์ (SEA) ของพื้นทึ่ ก่อนจะเดินหน้าโครงการโรงไฟฟ้าชีวมวล ใน อ.นาบอน จ.นครศรีธรรมราช หลังจากที่ก่อนหน้านี้กระทรวงพลังงานปฏิเสธการทำ SEA ซึ่งกลุ่มนาบอนมองว่าเป็นการขัดคำสั่งนายกรัฐมนตรีโดยตรง

ประสิทธิชัย หนูนวล ที่ปรึกษากลุ่ม Saveนาบอน

ประสิทธิชัย หนูนวล ที่ปรึกษากลุ่ม Saveนาบอน ระบุว่า สิ่งที่ออกมาเรียกร้องไม่ได้มีข้อเรียกร้องใหม่และเคยมีคำสั่งของฝ่ายบริหารออกมาอย่างชัดเจนแล้ว แต่เมื่อสั่งไปยังหน่วยงาน หน่วยงานกลับไม่ปฏิบัติ ทำให้ประชาชนเดือดร้อน จึงเรียกร้องให้มีการคุยกัน เพื่อให้หน่วยปฏิบัติ ปฏิบัติตามคำสั่งนายกรัฐมนตรีที่ได้ตกลงกันตั้งแต่เดือนธันวาคมเมื่อปีที่แล้ว หลังจากการประชุมเจรจาได้ผลอย่างไรก็ขอให้มาแจ้งทางกลุ่ม ซึ่งทางกลุ่มยืนยันว่าจะไม่ส่งตัวแทนเข้าร่วมประชุมด้วย เนื่องจากไม่มีอะไรจะต้องเรียกร้องใหม่เพราะทุกอย่างคือประเด็นเดิม

ประสิทธิชัย กล่าวถึงประเด็นที่สังคมตั้งคำถามว่าการเรียกร้องของกลุ่มชาวบ้านที่เมื่อได้คำตอบจากรัฐแล้วก็กลับ แล้วสุดท้ายก็ต้องกลับมาเรียกร้องอีกบ่อยๆ ยังจะเชื่อถือคำสัญญาลักษณะนี้อีกหรือ ประสิทธิชัย ชี้แจงว่า ชีวิตของคนที่ไม่ได้อยู่ในพื้นที่นาบอนสามารถคิดแบบนี้ได้ แต่ชีวิตของคนที่อยู่ในพื้นที่นาบอนไม่สามารถคิดแบบนี้ได้ เพราะถ้าคิดว่ารัฐก็หลอกไปเรื่อยเราไม่ต้องมาเขาก็จะถูกตอกเสาเข็ม แล้วก็สร้างโรงงาน ซึ่งคนที่ได้รับผลกระทบคือเขา

ส่วนคนที่บอกว่าจะถูกรัฐบาลหลอกไปเรื่อยๆ ก็ไม่ได้รับผลกระทบโดยตรง จึงอยากให้เข้าใจว่าทางทฤษฎีการเมืองก็เป็นประเด็นหนึ่ง แต่ชีวิตจริงของชาวบ้านซึ่งถูกเบียดขับก็เป็นอีกประเด็นอีกด้านนึงเหมือนกัน แม้ในทางทฤษฎีเราไม่ควรมาเรียกร้องกับรัฐที่ตระบัดสัตย์ก็ถูกต้อง แต่ในทางปฏิบัติคนที่ถูกกระทำก็จำเป็นต้องเรียกร้อง ต่อให้สังคมจะคิดว่าครั้งนี้รัฐบาลจะหลอกอีก แต่พวกเราที่เป็นผู้ได้รับความเดือดร้อนก็ยืนยันจะมาอีกเช่นกัน “ผมคิดว่าเรื่องนี้เป็นประเด็นสำหรับคนอื่นๆ แต่ไม่เป็นประเด็นสำหรับคนที่กำลังจะถูกไล่รื้อ”

ประสิทธิชัย กล่าวว่า ชีวิตของชาวบ้านที่ถูกไล่หรือเจ็บปวดทรมาน ไม่ใช่เฉพาะเขาแต่คือคนในครอบครัวเขา ไม่ใช่เฉพาะคนในรุ่นเขาแต่ไปถึงรุ่นลูกหลานของเขาด้วย ถ้าพรุ่งนี้บ้านคุณจะถูกย้ายและถูกถมดินล้อมที่บ้านคุณไว้ คุณจะนั่งสมาทานทฤษฎีหรือคุณจะลุกขึ้นมาต่อสู้ ประสิทธิชัยยืนยันว่า การต่อสู้ครั้งนี้ยึดหลักประชาธิปไตย ในนิยามว่าอำนาจในการจัดการท้องถิ่นต้องเป็นของประชาชน

ผู้สื่อข่าวถามถึงการออกมาเรียกร้องครั้งนี้ที่มีจำนวนประชาชนประมาณ 10 คน แต่มีหลักการในการเรียกร้องที่ชัดเจนตั้งแต่แรก ประสิทธิชัย บอกว่าเป็นอีกหนึ่งเรื่องที่กลุ่มนาบอนต้องการจะสื่อสารไปยังภาคประชาสังคมหรือกลุ่มประชาชนที่ถูกกดทับด้วยนโยบายจากภาครัฐว่า เราควรจะต่อสู้เรียกร้องกันที่เนื้อหาที่ยืนอยู่บนหลักวิชาการและหลักการ ไม่เน้นปริมาณก็สามารถที่จะมีพลังในการเรียกร้องต่อภาครัฐที่มีอำนาจได้

โดยในสภาวะเศรษฐกิจแบบนี้การที่จะนำประชาชนจำนวนมากเดินทางมาเรียกร้องถึงกรุงเทพมหานคร ย่อมเป็นการเบียดเบียนประชาชนที่เรียกร้อง แต่การยืนอยู่บนหลักการที่ถูกต้องและสู้ด้วยเหตุผลบนหลักวิชาการก็มีพลังในการต่อสู้เช่นเดียวกัน

ประสิทธิชัย ระบุว่า หลังจากวันนี้เราก็รู้ว่ากระทรวงพลังงานก็จะพยายามบิดข้อตกลงไปเรื่อยๅ เพื่อจะไม่ให้มีการทำ SEA ในพื้นที่นาบอน เพราะจะกระทบกับเรื่องโควต้าที่ให้ทุนพลังงานสร้างโรงงานไฟฟ้าได้ การต่อสู้ครั้งนี้จึงไม่ได้เป็นการเรียกร้องแค่เรื่องของนาบอน แต่เป็นการต่อสู้ในเชิงโครงสร้างการจัดการพลังงานของประเทศด้วย และรู้ว่าสุดท้ายแล้วรัฐก็จะพยายามหาวิธีการในลักษณะเดิมอีก

แต่เราเชื่อในพลังของประชาชนว่า เรามีอำนาจไม่น้อยไปกว่าภาครัฐ หากวันนี้รัฐมีหนังสือชัดเจนตามข้อตกลงเราก็พร้อมยุติการชุมนุมกลับบ้าน แต่กระบวนการตรวจสอบของภาคประชาชนจะไม่หยุด จะเดินหน้าต่อไป เพราะเราเชื่อว่าประชาชนคือส่วนสำคัญของการพัฒนา และการพัฒนาทุกอย่างของประเทศนี้ จะต้องมาอิงหลักวิชาการได้แล้ว เช่น การทำ SEA ก่อนมีการทำโครงการต่างๆ

เรื่อง : ทศ ลิ้มสดใส
ภาพ: ศุภสัณห์ กันณรงค์

Related Posts

Send this to a friend