ENVIRONMENT

ยูนิเซฟ ชี้ เยาวชนไทยกำลังเป็นพลังสำคัญในการสู้กับโลกรวน แต่กลับไร้สิทธิ์ไร้เสียง

ยูนิเซฟ เปิดเผยถึงรายงาน ‘จากรุ่นสู่รุ่น ในโลกใบเดียวกัน’ (Between Generations, One Planet) พบว่า เด็กและเยาวชนไทยกำลังก้าวขึ้นมาเป็นพลังสำคัญในการต่อสู้กับวิกฤตสภาพภูมิอากาศ แต่เสียงของพวกเขากลับถูกละเลย ไม่ได้รับการสนับสนุน และบางครั้งยังเผชิญกับการคุกคาม ยูนิเซฟจึงเปิดตัวแคมเปญ #CountMeIn 2025 จากเหนือจรดใต้ ทุกเสียงของเด็กมีความหมาย: รับฟัง ลงมือทำ รับมือโลกรวน ส่งเสริมให้เด็กและเยาวชนมีบทบาท และได้รับการสนับสนุนจากทุกภาคส่วน

รายงานฉบับนี้พบว่า แม้เยาวชนจะมีบทบาทสำคัญในการเคลื่อนไหวด้านสภาพภูมิอากาศ แต่พวกเขามักถูกกันออกจากกระบวนการตัดสินใจที่สำคัญ เยาวชนจำนวนมากยังขาดพื้นที่ปลอดภัย ทรัพยากร และงบประมาณในการดำเนินกิจกรรม นอกจากนี้ เด็กและเยาวชนจากชุมชนชายขอบ โดยเฉพาะกลุ่มชาติพันธุ์ และเด็กพิการ มักถูกละเลยจากเวทีระดับประเทศ เด็กและเยาวชนบางส่วนรู้สึกไม่ปลอดภัยเมื่อออกมาแสดงความคิดเห็น

แคมเปญ #CountMeIn 2025 มาพร้อมแนวคิด ‘เสียงของเด็ก พลังของเด็ก’ ชูพลังการขับเคลื่อนด้านสิ่งแวดล้อมของเด็กและเยาวชนทั่วประเทศ เพื่อย้ำว่าทุกเสียงและการลงมือทำของเด็กและเยาวชนล้วนมีความหมาย โดยหยิบยกเรื่องราวของตัวแทนเยาวชน 3 คน ได้แก่

1.สิริกานต์ เส่งหล้า อายุ 18 ปี เยาวชนชาติพันธุ์ม้ง จ.เชียงใหม่ ผู้เคยประสบเหตุดินถล่มครั้งใหญ่ ทำให้หมู่บ้านถูกตัดขาดจากอาหาร น้ำ และไฟฟ้านานหลายวัน

“เป็นประสบการณ์ที่น่ากลัวที่สุดในชีวิต ทุกครั้งที่ฝนตกหนัก หนูจะเก็บตัวอยู่ในบ้าน กังวลและกลัวว่ามันจะเกิดขึ้นอีก แต่การได้เรียนรู้เรื่องการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศทำให้หนูมีความหวังมากขึ้น หนูพยายามบอกเล่าความรู้นี้ให้คนในหมู่บ้านเข้าใจว่า เหตุการณ์เหล่านี้ไม่ได้เกิดจากเจ้าป่าเจ้าเขาลงโทษ แต่คือปัญหาสภาพอากาศที่เราต้องเตรียมรับมือร่วมกัน”

2.ปัณณ์พิตรา ภูธร อายุ 22 ปี สมาชิกคณะกรรมการที่ปรึกษาเยาวชนของยูนิเซฟจาก จ.ร้อยเอ็ด ต้องเผชิญทั้งภัยแล้งและน้ำท่วมที่ทำลายผลผลิตทางการเกษตรของครอบครัว

“ทุกคนมีส่วนในการปล่อยคาร์บอน สิ่งสำคัญคือการตระหนักว่าทุกการกระทำของเราส่งผลต่อโลก เราสามารถเลือกที่จะทำสิ่งที่ช่วย หรือทำร้ายโลกก็ได้ โลกไม่ได้ต้องการความสมบูรณ์แบบ แต่ต้องการคนที่พร้อมลงมือทำ”

3.ไครียะห์ ระหมันยะ อายุ 23 ปี หรือที่รู้จักในชื่อ ‘ลูกสาวแห่งทะเล’ เคยลุกขึ้นคัดค้านการทำลายชายฝั่งบ้านเกิดใน จ.สงขลา

“มีคนบอกเราว่า ‘จุ้นจ้านน่ะ เป็นเด็กก็ไปตั้งใจเรียนไป’ เราได้แต่ยิ้ม ไม่ได้พูดอะไรกลับไปต่อหน้า แต่พูดกับสาธารณะว่า ‘ถึงจะเป็นเด็ก แต่เราดื่มกินอยู่กับฐานทรัพยากรที่บ้าน หายใจอากาศบริสุทธิ์ เราเลยมีสิทธิที่จะปกป้อง’ มันคือหน้าที่ของทุกคนที่ต้องปกป้องอาหารปลอดภัยและอากาศบริสุทธิ์”

แคมเปญนี้เรียกร้องให้ทุกภาคส่วนร่วมกันสนับสนุนโครงการที่นำโดยเยาวชน ปกป้องนักปกป้องสิ่งแวดล้อมรุ่นใหม่ และสร้างพื้นที่ที่ปลอดภัย เปิดกว้าง และมีโครงสร้างชัดเจน เพื่อให้เด็กและเยาวชนได้มีส่วนร่วมอย่างแท้จริงในการกำหนดนโยบายและการดำเนินงานด้านสภาพภูมิอากาศ

Related Posts

Send this to a friend