ENVIRONMENT

พิสูจน์ซากเสือโคร่งพบถูกล่อให้ลงไปกินเหยื่อ ในหลุม ก่อนจะระดมจ่อยิงจนตาย

พิสูจน์ซากเสือโคร่ง พบ ทั้ง 2 ตัวถูกล่อให้ลงไปกินเหยื่อในหลุม ก่อนผู้ล่าจะระดมจ่อยิงจนตาย เบื้องต้น เจ้าหน้าที่แจ้ง 10 ข้อหา 

วันนี้ (14 ม.ค. 65) นายนิพนธ์ จำนงสิริศักดิ์ ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3 (บ้านโป่ง) เปิดเผยว่า นางสาวกนกวรรณ ตรุยานนท์ นายสัตวแพทย์ชำนาญการพิเศษ สังกัดสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3 (บ้านโป่ง) ได้ทำการผ่าพิสูจน์ซากเสือโคร่งทั้ง 2 ตัวแล้ว เบื้องต้นพบว่า เสือตัวผู้ถูกยิงด้วยอาวุธปืนจำนวน 3 นัด กระสุนเข้าที่กะโหลก 2 นัด และที่เขี้ยวอีก 1 นัด ส่วนเสือตัวเมีย ถูกยิงด้วยอาวุธปืนที่กะโหลกทั้ง 4 นัด เป็นการจ่อยิง โดยผู้ต้องหามีพฤติการณ์ล่าเสือโคร่งด้วยการร่วมกันขุดหลุมดัก นำวัวมาวางเป็นเหยื่อล่อ เมื่อเสือลงไปกินเหยื่อในหลุม ทั้งหมดได้ใช้อาวุธปืนระดมแบบจ่อยิงจนเสือตาย

นายนิพนธ์ เพิ่มเติมว่าเป็นการพบเสือโคร่งในเขตอุทยานแห่งชาติทองผาภูมิ ครั้งแรก ที่ผ่านมาไม่เคยปรากฏว่ามีเสือโคร่งอาศัยอยู่ในพื้นที่นี้มาก่อน อาจบ่งชี้ได้ว่า จำนวนประชากรเสือมีเพิ่มขึ้น หรือมีการขยายถิ่นที่อยู่อาศัยมาในเขตอุทยานแห่งชาติทองผาภูมิ พร้อมยืนยันว่า ที่ผ่านมาไม่เคยมีชาวบ้านมาแจ้งเจ้าหน้าที่อุทยานฯ ว่าวัวที่เลี้ยงไว้ถูกเสือกัดกินแต่อย่างใด ซึ่งหากชาวบ้านมาแจ้ง เจ้าหน้าที่ก็พร้อมออกไปติดตามเพื่อป้องปรามเหตุ

นายนิพนธ์ คาดว่าเสือโคร่งน่าจะย้ายถิ่นเข้ามาอาศัยอยู่ในพื้นที่อุทยานแห่งชาติทองผาภูมิได้ไม่นาน ชาวบ้านเข้าไปพบร่องรอย จึงได้วางแผนฆ่า โดยในทางคดี เบื้องต้นพนักงานสอบสวน สภ.ทองผาภูมิ ตั้งข้อหาชาวบ้านทั้ง 5 คน ในความผิดฐาน 

1.ร่วมกันมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต 

2.ร่วมกันพาอาวุธปืนติดตัวไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาตให้มีอาวุธปืนติดตัว และไม่มีเหตุจำเป็นเร่งด่วนตามสมควรแก่พฤติการณ์ 

3.ร่วมกันเก็บหาของป่าอันเป็นการเสื่อมเสียแก่สภาพป่าสงวนแห่งชาติ โดยมิได้รับอนุญาต 

4.ร่วมกันล่อหรือนำสัตว์ป่าออกไปหรือกระทำให้เป็นอันตรายแก่สัตว์ป่าด้วยประการใดๆ ในเขตอุทยานแห่งชาติ 

5.ร่วมกันเข้าไปดำเนินกิจการใดๆ เพื่อหาผลประโยชน์ในอุทยานแห่งชาติ 

6.ร่วมกันนำเครื่องมือสำหรับล่าสัตว์หรือจับสัตว์หรือาวุธใดๆ เข้าไปในอุทยานแห่งชาติ 

7.ยิงปืนทำให้เกิดระเบิด หรือจุดดอกไม้เพลิงในเขตอุทยานแห่งชาติ 

8.ร่วมกันทิ้งสิ่งที่เป็นเชื้อเพลิงซึ่งอาจทำให้เกิดเพลิงไหม้ในเขตอุทยานแห่งชาติ 

9.ร่วมกันล่าสัตว์ป่าสงวนหรือสัตว์ป่าคุ้มครองโดยไม่ได้รับอนุญาต และ 

10.ร่วมกันมีซากสัตว์ป่าคุ้มครองไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต

Related Posts

Send this to a friend