นักวิจัย มช. และกรมอุทยานฯ ค้นพบ ‘ระฆังอัครา’ กระดังงาชนิดใหม่ เตรียมศึกษาต่อยอด ใช้รักษาโรค
นักวิจัยมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ และกรมอุทยานแห่งชาติ ค้นพบ “ระฆังอัครา” กระดังงาชนิดใหม่ของโลกที่ภาคใต้ตอนบน ตั้งคำระบุชนิด “majestatis” เฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง พระมารดาแห่งการคุ้มครองความหลากหลายทางชีวภาพ เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 90 พรรษา
ผศ.ดร.ธนวัฒน์ เชาวสกู อาจารย์ประจำภาควิชาชีววิทยา คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เปิดเผยถึงการค้นพบพืชชนิดใหม่ของโลกในวงศ์กระดังงาจากจังหวัดกระบี่ พังงา และสุราษฎร์ธานี ที่มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Miliusa majestatis Damth., Sinbumr. & Chaowasku โดยคำระบุชนิด “majestatis” เพื่อเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง และมีชื่อไทยว่า “ระฆังอัครา”
การค้นพบพืชชนิดใหม่ เกิดขึ้นภายใต้โครงการวิจัย “อนุกรมวิธานและวิวัฒนาการชาติพันธุ์ของพรรณไม้วงศ์กระดังงา (Annocaceae) ในประเทศไทยที่หายากและยังไม่เป็นที่รู้จัก เพื่อการอนุรักษ์และการใช้ประโยชน์อย่างยั่งยืน” โดยมี น.ส.อานิสรา ดำทองดี นักศึกษาปริญญาเอก สาขาวิชาความหลากหลายทางชีวภาพและชีววิทยาชาติพันธุ์ ร่วมกับ นายอรุณ สินบำรุง นักวิชาการป่าไม้ชำนาญการ สังกัดกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช เป็นผู้ศึกษาและค้นพบ
นอกจากนี้ โครงการดังกล่าวยังได้รับการสนับสนุนจากสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (สกสว.) และสำนักงานปลัดกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม และได้รับการตีพิมพ์ผลงานลงในวารสารวิชาการระดับนานาชาติ Annales Botanici Fennici เมื่อวันที่ 7 สิงหาคม ที่ผ่านมา
ผศ.ดร.ธนวัฒน์ เผยว่า ระฆังอัครามีลักษณะเด่น คือ เป็นไม้ต้นขนาดเล็ก สูงได้ถึง 5 เมตร ดอกมีรูปร่างคล้ายระฆัง กลีบดอกชั้นในคอดรัดและมีช่องเปิดขนาดเล็ก อยู่ระหว่างโคนกลีบดอกชั้นในที่ติดกัน กลีบดอกชั้นในที่อยู่ส่วนล่างของการคอดรัดมีสีเหลืองอมเขียว ส่วนกลีบดอกชั้นในที่อยู่ส่วนบนส่วนมากมีสีแดงม่วงเข้มอมน้ำตาล โคนกลีบมีเนื้อเยื่อโปร่งแสง ทำให้แสงส่องผ่านได้ เวลาออกดอกจะออกพร้อมกัน
ทั้งนี้ ระฆังอัคราจะขึ้นอยู่ริมสวนยางพาราและสวนปาล์มน้ำมันนอกเขตอนุรักษ์ สุ่มเสี่ยงที่จะถูกแผ้วถางในอนาคต นอกจากนี้ต้องศึกษาสารทุติยภูมิและฤทธิ์ทางชีวภาพจากต้นระฆังอัครา เพื่อใช้ประโยชน์ทางเภสัชศาสตร์ โดยจากรายงานการศึกษาก่อนหน้าพบว่า พืชชนิดอื่นในสกุลเดียวกัน เป็นพืชสมุนไพรที่มีฤทธิ์ทางชีวภาพที่มีฤทธิ์ต้านมะเร็ง สามารถพัฒนาเป็นไม้ดอกไม้ประดับได้ เนื่องจากปลูกเลี้ยงค่อนข้างง่ายและมีดอกสวยงาม