ชาวเชียงรายเดินขบวน ร้องรัฐบาลไทย เมียนมา จีน และว้า หยุดสร้างเหมืองแร่
ชาวเชียงรายนับพัน เดินขบวนกลางสะพานข้ามแม่น้ำกก ร้องรัฐบาลไทย เมียนมา จีน และว้า หยุดสร้างเหมืองแร่ เร่งฟื้นฟูระบบนิเวศจากปัญหาสารพิษ ด้านรองปลัด มท.เผยไทยส่งหนังสือนัดเมียนมาเจรจาแล้ว
วันนี้ (5 มิ.ย.68) ชาวเชียงราย-เชียงใหม่กว่า 1,000 คน ร่วมกิจกรรมปอยหลวงปิดเหมือง เนื่องในวันสิ่งแวดล้อมโลก ปี 2568 ณ สวนสาธารณะแม่ฟ้าหลวง เพื่อเรียกร้องให้มีการหยุดสร้างเหมืองแร่ในรัฐฉาน ประเทศเมียนมา เนื่องจากได้รับผลกระทบจากปัญหาสารปนเปื้อนในแม่น้ำกก
ในเวลา 10.00 น.สมาคมขัวศิลปะ เริ่มนำขบวนด้วยงานศพปลาแข้ ที่ก่อนหน้านี้พบว่าป่วยมีตุ่มพองทั้งในแม่น้ำกกและแม่น้ำโขง ตามมาด้วยเหล่านักเรียนและชาวบ้านในจังหวัดเชียงรายที่ได้รับผลกระทบ เดินเท้าจากสวนสาธารณะแม่ฟ้าหลวงไปที่กลางสะพานข้ามแม่น้ำกก
จากนั้นตัวแทนเครือข่ายประชาชนปกป้องลุ่มน้ำกก สาย รวก โขง ได้ยืนอ่านแถลงการณ์ 5 ภาษา ประกอบด้วย ภาษาไทย ภาษาอังกฤษ ภาษาจีน ภาษาเมียนมา และภาษาไทใหญ่ ส่งถึงนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ขอใผ้แก้ปัญหามลพิษข้ามพรมแดนแม่น้ำกก สาย รวก โขง โดยหาช่องทางปิดเหมืองทันที และฟื้นฟูนิเวศลุ่มน้ำ
ใจความระบุว่า เนื่องด้วยประชาชนที่อาศัยในลุ่มน้ำกก สาย รวก โขง ในพื้นที่ จ.เชียงใหม่ และ จ.เชียงราย กำลังเผชิญปัญหาการปนเปื้อนโลหะหนักในแม่น้ำที่ไหลมมาจากรัฐฉาน ประเทศเมียนมา กว่า 1 ปีที่ผ่านมาประชาชนที่อยู่ริมแม่น้ำกกพบว่าแม่น้ำขุ่นข้นแม้กระทั่งในฤดูแล้ง ซึ่งผิดปกติแทนที่น้ำจะใส เช่นเดียวกับชาวบ้านริมแม่น้ำสาย ได้พบว่าในช่วง 3-4 ปีที่ผ่านมาแม่น้ำสายมีสีขุ่นข้นมาก โดยปีที่แล้วขุ่นข้นจนน่ากลัวเพราะกลายเป็นสีขาว แม้กระทั่งนำไปผ่านกระบวนการผลิตน้ำประปาสีของน้ำก็ยังขุ่น
ภาคประชาชน จึงได้ร่วมกันเรียกร้องให้มีการตรวจสอบที่มาของความขุ่น เพราะได้รับข้อมูลข่าวสารว่าที่บริเวณต้นแม่น้ำกกและแม่น้ำสายมีการทำเหมืองแร่ จนกระทั่งกรมควบคุมมลพิษได้ทำการตรวจสอบและพบสารโลหะหนักเกินค่ามาตรฐาน เมื่อทางการได้ตรวจสอบภาพถ่ายดาวเทียมแสดงหลักฐานชี้ให้เห็นว่ามีการเปิดหน้าดิน ทำเหมืองแร่เถื่อน รวมทั้งแร่แรร์เอิร์ทอย่างน้อย 40 จุด โดยเหมืองเถื่อนบางแห่งตั้งอยู่ห่างจากพรมแดนไทยเพียง 2 กิโลเมตรเท่านั้น
กรมควบคุมมลพิษได้ดำเนินการตรวจคุณภาพน้ำ 3 ครั้ง ทุกครั้งพบว่าในแม่น้ำกกมีสารโลหะหนักเกินค่ามาตรฐาน เช่นเดียวกับแม่น้ำสายที่มีค่าสารหนูและสารตะกั่วปนเปื้อนสูงเกินกว่ามาตรฐานจนน่าตกใจ รวมทั้งแม่น้ำโขง สร้างความตระหนกและกังวลใจแก่ประชาชนที่อาศัยอยู่และใช้น้ำทั้งการอุปโภค การเกษตร การประมง การท่องเที่ยว เป็นอย่างยิ่ง
คำแนะนำของทางการให้ประชาชนงดการสัมผัสน้ำแม่น้ำโดยตรง งดบริโภคสัตว์น้ำ งดกิจกรรมทางน้ำ ทำให้ประชาชนยิ่งรู้สึกถึงความไม่ปลอดภัย ไม่มีทางออก คนหาปลาขาดรายได้ ชาวนาไม่มั่นใจว่าจะปลูกข้าวได้หรือไม่ ผู้คนใช้น้ำประปาด้วยความหวาดระแวง ประชาชนในพื้นที่ต่างกังวลว่า จะเกิดการสะสมของสารโลหะหนักในระยะยาวสุขภาพของตนเองและลูกหลานจะเป็นอย่างไร และฤดูฝนนี้หากน้ำหลากมาท่วมบ้านเรือน เราจะรับมือกับน้ำพิษ โคลนพิษได้อย่างไร
นอกจากนี้ในระยะ 3 เดือนที่ผ่านมา ประชาชนยังต้องเผชิญกับความสูญเสียทางเศรษฐกิจจากการท่องเที่ยว การค้าขาย ผลกระทบทางสังคมและผลกระทบต่อสุขภาพกายสุขภาพจิต โดยที่ยังไม่เห็นว่ารัฐบาลจะมีมาตรฐานแก้ไขปัญหาต้นตอซึ่งเป็นแหล่งที่ทำให้เกิดมลพิษข้ามพรมแดน คือเหมืองแร่เถื่อนจำนวนมากในเขตรัฐฉาน พวกเราประชาชนในพื้นที่ตระหนักดีว่า เราจะปล่อยให้ปัญหาผลกระทบดังเกิดขึ้นต่อเนื่องเช่นนี้ต่อไปไม่ได้ นี่คือปัญหาภัยความมั่นคงที่กระทบประชาชนนับล้านคน
จึงขอเรียกร้องไปยังนายกรัฐมนตรีของประเทศไทย ดำเนินการในทุกวิถีทาง เพื่อยุติเหมืองแร่เหล่านี้ทันที และต้องมีมาตรการชัดเจนด้านการฟื้นฟูนิเวศแม่น้ำกก สาย รวก และโขง ระบบเศรษฐกิจและสังคมของท้องถิ่นให้กลับคืนมาดังเดิมอย่างเร่งด่วน เพราะยิ่งเวลาเนิ่นนานออกไปยิ่งทำให้ความเสียหายรุนแรงและวงกว้างขึ้น
ภายหลังการอ่านแถลงการณ์ตัวแทนเครือข่ายประชาชนปกป้องลุ่มน้ำกก สาย รวก โขง ได้ยื่นหนังสือถึงรัฐบาลไทย เมียนมา จีน และกองทัพว้า ผ่านนายขจร ศรีชวโนทัย รองปลัดกระทรวงมหาดไทย และนายชรินทร์ ทองสุข ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย ในฐานะตัวแทนรัฐบาล
นายขจร เปิดเผยว่าตนเองได้รับรายงานว่ารัฐบาลไทยส่งหนังสือไปยังประเทศเมียนมา และส่งสำเนาหนังสือดังกล่าวให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยกับกระทรวงทรัพยากรของเมียนมา เพื่อนัดพบเจรจากันแล้ว โดยวันพรุ่งนี้ (6 มิ.ย.68) นางสาวธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย จะประชุมวิดิโอคอนเฟอเรนซ์กับจังหวัดเชียงราย จังหวัดเชียงใหม่ และกรมควบคุมมลพิษเพื่อแก้ปัญหาอย่างเร่งด่วน ยืนยันว่ารัฐบาลไม่ได้นิ่งนอนใจในการแก้ปัญหา เนื่องจากแม่น้ำกกเป็นแม่น้ำสายหลักของเชียงราย
ภายหลังการยื่นหนังสือเครือข่ายประชาชนปกป้องลุ่มน้ำกก สาย รวก โขง ได้โปรยดอกไม้และปล่อยป้ายผ้าบริเวณกลางสะพาน ข้อความระบุว่า “หยุดเหมืองพิษ คืนชีวิตให้สายน้ำกก”
ด้านเสียงสะท้อนจากภาคประชาชน ครูตี๋ นิวัฒน์ ร้อยแก้ว เปิดเผยกับ The Reporters ว่ากิจกรรมที่จัดขึ้นในวันนี้เพื่อแสดงเจตนารมณ์ในการปกป้องแม่น้ำกก แม่น้ำสาย แม่น้ำรวก และแม่น้ำโขงที่กำลังปนเปื้อนสารพิษ ซึ่งเป็นเรื่องอันตรายที่สุดของคนเชียงราย เราจึงออกมาแสดงพลังให้เห็นว่ารัฐบาลจะเชื่องช้าไม่ได้แล้ว ต้องมีความชัดเจนในการแก้ปัญหา
ที่ผ่านมาสัญญาณต่าง ๆ ทั้งปลาติดเชื้อ คนลงไปเล่นน้ำก็เป็นผื่น สะท้อนว่าปัญหาสารพิษในแม่น้ำเริ่มรุนแรงขึ้นถ้าเราไม่สามารถปิดเหมืองได้ ดังนั้นสิ่งแรกที่รัฐบาลจะต้องเร่งทำคือ การเจรจาหยุดเหมืองให้ได้ ฟื้นฟูและแก้ไขให้ลำน้ำกลับมาเป็นเหมือนเดิม
“วันนี้รัฐบาลคงเห็นแล้วว่าประชาชนคนเชียงรายมองว่าปัญหานี้มีความสำคัญกับชีวิต รัฐบาลต้องรู้ ถ้ารัฐบาลมีความเชื่องช้า ถ้าไม่ขับเคลื่อนอย่างรวดเร็วก็จะยิ่งมีปัญหาขึ้นเรื่อย ๆ กระทบกับชีวิตของพี่น้องประชาชนอย่างแน่นอน”
ชาวบ้านจากหมู่บ้านเวียงเหนือ ตำบลเวียง อำเภอเชียงแสน จังหวัดเชียงราย เล่าว่าช่วงที่ผ่านมาพบปลาหลายชนิดมีตุ่มพอง และไม่สามารถลงเล่นในแม่น้ำได้ เพราะกลัวเป็นตุ่มแผล ไม่กล้าใช้น้ำกกแล้ว ถ้าจะลงน้ำจริง ๆ ต้องเตรียมรองเท้าบูทยาวและชุดป้องกันให้ดี ทั้งนี้ปัจจุบันที่หมู่บ้านใช้แม่น้ำกกในการทำเกษตรกรรมอยู่ แม้จะมีปัญหาสารพิษในแม่น้ำก็ตาม