ENVIRONMENT

อธิบดี ทช. สั่งตรวจสอบ แก้ปัญหา ทุ่นดักขยะทะเลภาคใต้ฝั่งอ่าวไทย

นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง กล่าวถึงกรณีที่สำนักข่าวอิศรา เผยแพร่ข่าวในประเด็นที่ว่า สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน หรือ สตง. ดำเนินการตรวจสอบโครงการบริหารจัดการขยะทะเลบริเวณภาคใต้ฝั่งอ่าวไทย โดยพบปัญหาในขั้นตอนการดำเนินงาน และข้อบกพร่องการโอนครุภัณฑ์ทุ่นดักขยะ ให้กับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น รวมถึงกรณีที่พบว่า ทุ่นดักขยะบางส่วนไม่ได้ใช้ประโยชน์ สูญหาย บางแห่งมีชาวบ้านเข้ามาทำลาย ลักขโมย ทำให้เกิดความเสียหาย

เมื่อทราบเหตุดังกล่าว ได้มอบหมายให้สถาบันวิจัยและพัฒนาทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง โดยศูนย์วิจัยทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งอ่าวไทยตอนล่าง (สงขลา) และสำนักงานทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งที่ 4 เร่งดำเนินการตรวจสอบเพื่อหาสาเหตุและแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นเป็นการด่วน

จากการรายงานเบื้องต้น ทราบว่าที่ผ่านมา กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งประสบความสำเร็จในการจัดวางทุ่นดักขยะทะเลในหลายพื้นที่ ทำให้จังหวัดสงขลาเล็งเห็นประโยชน์ที่เกิดขึ้น จึงขอความร่วมมือให้ศูนย์วิจัยทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งอ่าวไทยตอนล่าง (ศวทล.) เขียนโครงการเพื่อของบประมาณจังหวัดมาใช้ดำเนินการภายในจังหวัดสงขลา เพื่อลดปริมาณขยะที่จะไหลลงสู่ทะเล และได้ผลักดันให้เสนอโครงการบริหารจัดการขยะทะเลบริเวณภาคใต้ฝั่งอ่าวไทยด้วย เพื่อให้ขยะทะเลมีปริมาณลดลงอย่างยั่งยืน

โดยขอจากงบประมาณกลุ่มจังหวัดเพื่อดำเนินการในพื้นที่ 5 จังหวัดของภาคใต้ฝั่งอ่าวไทย ประกอบด้วย ชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง และสงขลา ซึ่งก่อนเริ่มดำเนินโครงการ เจ้าหน้าที่ของศูนย์วิจัยทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งอ่าวไทยตอนล่าง ได้ลงสำรวจความเหมาะสมของพื้นที่ที่จะวางทุ่นดักขยะทะเล พร้อมทั้งเข้าพบองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในพื้นที่ เพื่อขอความเห็นชอบในการดำเนินการ และได้ประสานงานเบื้องต้นแล้วว่าหากโครงการดังกล่าวมีการดำเนินการศึกษาวิจัยเพื่อจัดทำมาตรการบริหารจัดการขยะทะเลแล้วเสร็จ จะมอบทุ่นดักขยะไว้ใช้งานในพื้นที่โดยจะส่งมอบตามระเบียบที่เกี่ยวข้องต่อไป

นายอรรถพล กล่าวเพิ่มเติมว่า โครงการดังกล่าว ในปีงบประมาณ 2563 ได้รับการอนุมัติงบประมาณจำนวน 21 ล้านบาท ประกอบด้วย 4 กิจกรรม คือ 1.การจัดทำมาตรการบริหารจัดการขยะทะเลโดยการวางทุ่นดักขยะ กิจกรรมที่ 2.การดำน้ำเก็บขยะระบบนิเวศแนวปะการังในทะเล กิจกรรมที่ 3.การเก็บขยะชายหาด และ 4.การจัดอบรมให้ความรู้ความเข้าใจแก่ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียในพื้นที่

โดยงบประมาณที่ได้รับเป็นงบลงทุนเพียงอย่างเดียวตามกิจกรรมที่ 1 ดำเนินการจัดซื้อจัดจ้างโดยวิธีประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์ (e-bidding) วงเงิน 15,563,000 บาท แต่ด้วยสถานการณ์การระบาดของโควิด-19 ทำให้กิจกรรมที่ 2,3 และ 4 จังหวัดสงขลาขอยกเลิกและให้ส่งคืนเงิน เพื่อไปช่วยเหลือสถานการณ์โควิดในช่วงนั้น

“จากปัญหาที่เกิดขึ้น ตามข้อตรวจพบของ สตง. กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ได้สั่งการให้ ศวทล. และสำนักงานทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งที่ 4 ดำเนินการประสานงานกับ 5 จังหวัด เพื่อพิจารณาการนำทุ่นดักขยะดังกล่าวไปใช้ประโยชน์ พร้อมเร่งประสานงานกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเพื่อร่วมกันแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น พร้อมกับให้พี่น้องเครือข่ายชุมชนชายฝั่งช่วยกันสอดส่องดูแลทุ่นดักขยะ หากพบเห็นว่าอุปกรณ์มีการชำรุดหรือเสียหายให้แจ้งไปยัง ศวทล. เพื่อเข้าทำการซ่อมแซมให้กลับมาใช้งานได้ดังเดิมอีกครั้ง ส่วนปัญหาการจัดวางทุ่นดักขยะในบริเวณที่ไม่เหมาะสม กรมฯ พร้อมจะส่งมอบให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นนำไปจัดวางในพื้นที่ที่เหมาะสม เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อระบบนิเวศทางทะเลและชายฝั่งต่อไป “ นายอรรถพล กล่าว

Related Posts

Send this to a friend