DEEPSOUTH

ผบช.ภาค 9 เผยเหตุโจมตี สภ.จะแนะ พบร่องรอยคนร้ายนับ 10 บุกโจมตี โดยอาวุธสงคราม

คืบหน้าเหตุโจมตี สภ.จะแนะ ผบช.ภาค 9 เผย ตรวจสอบที่เกิดเหตุพบร่องรอยคนร้ายนับ 10 บุกโจมตี โดยใช้ปืนกล M60 2 กระบอก และอาวุธสงครามกราดยิงทำให้มีเจ้าหน้าที่เสียชีวิต 1 เจ็บ 1

จากเหตุเมื่อวันที่ 28 พฤษภาคม 2568 เวลา 08.45 น. เกิดเหตุคนร้ายจำนวนมาก ใช้อาวุธปืนสงครามกราดยิงเข้าใส่เจ้าหน้าที่ตำรวจ สถานีตำรวจภูธรจะแนะ หมู่ที่ 3 ตำบลจะแนะ อำเภอจะแนะ จังหวัดนราธิวาส ขณะเจ้าหน้าที่เข้าแถวเคารพธงชาติ ส่งผลให้เจ้าหน้าที่เสียชีวิต 1 นาย และบาดเจ็บอีก 1 นาย

ผู้เสียชีวิตคือ จ่าสิบตำรวจ อับดุลเลาะ มะกาเซ็ง อายุ 30 ปี ถูกกระสุนเจาะศีรษะ เสียชีวิตที่โรงพยาบาลจะแนะ ขณะที่ สิบตำรวจตรี เจษฎา พรหมรัตน์ อายุ 33 ปี ได้รับบาดเจ็บจากกระสุนปืนบริเวณหน้าอก ขณะนี้พักรักษาตัวที่โรงพยาบาลนราธิวาสราชนครินทร์ อาการปลอดภัยแล้ว

จากรายงานของเจ้าหน้าที่ ระบุว่าคนร้ายกว่า 10 คน ซุ่มยิงจากแนวป่าละเมาะบริเวณบ้านเรือนประชาชนฝั่งตรงข้ามสถานีตำรวจ โดยใช้อาวุธปืนกลหนัก 2 กระบอก คาดว่าเป็นปืน M60 และอาวุธสงครามอื่น ๆ ยิงเข้ามาเป็นแนวยาวระยะประมาณ 80 เมตร ห่างจากตัวสถานีประมาณ 75 เมตร เป้าหมายคือบริเวณป้อมยามและตัวอาคารสถานีตำรวจ

เจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร และอาสารักษาดินแดนได้ทำการยิงตอบโต้เป็นเวลาประมาณ 15 นาที ก่อนที่กลุ่มคนร้ายจะล่าถอยไปทางเชิงเขาด้านหลังอาคาร โดยทิ้งร่องรอยกระสุนและปลอกกระสุนจำนวนมากในพื้นที่

เช้าวันนี้ (29 พ.ค. 68) เวลา 09.00 น. พล.ต.ท.ปิยะวัฒน์ เฉลิมศรี ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 9 (ผบช.ภ.9) เปิดเผยในที่ประชุม ณ ห้องประชุมยะลารวมใจ ชั้น 2 ศปก.ตร. ว่า ตนเองพร้อมด้วยแม่ทัพภาคที่ 4 และคณะ ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบจุดเกิดเหตุ โดยระบุว่าการกระทำของกลุ่มคนร้ายในครั้งนี้เป็นการโจมตีที่มีการวางแผนอย่างรอบคอบ ใช้อาวุธรุนแรง และมุ่งเป้าเพื่อสร้างความเสียหายแก่เจ้าหน้าที่รัฐอย่างชัดเจน

พล.ต.ท.ปิยะวัฒน์ กล่าวย้ำว่า เจ้าหน้าที่ที่เสียชีวิตได้ปฏิบัติหน้าที่อย่างกล้าหาญ แม้ถูกโจมตีด้วยอาวุธหนักก็ยังพยายามตอบโต้ตามแผนที่ได้ซักซ้อมไว้ ถือเป็นการเสียสละเพื่อประเทศอย่างแท้จริง ทั้งนี้ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เน้นย้ำการดูแลสวัสดิการ และเตรียมการปรับแผนอาจจะมีการเพิ่มกำลังเจ้าหน้าที่หน่วยปฏิบัติการพิเศษเข้าไปยัง สภ.ในพื้นที่ ๆห่างไกลเพิ่มมากขึ้น

ขณะนี้ เจ้าหน้าที่ได้เร่งเก็บพยานหลักฐานในพื้นที่ พร้อมระดมกำลังติดตามเบาะแสกลุ่มคนร้ายที่เชื่อว่ายังคงหลบซ่อนตัวอยู่ในพื้นที่ใกล้เคียง โดยหน่วยงานความมั่นคงได้วางมาตรการป้องกันอย่างเข้มงวดเพื่อไม่ให้เกิดเหตุซ้ำอีกในระยะใกล้นี้

Related Posts

Send this to a friend

Thailand Web Stat