นายกฯ เตรียมเยี่ยมชมศูนย์เรียนรู้คัมภีร์อัลกุรอาน นราธิวาส 29 ก.พ.นี้
นายกฯ เตรียมเยี่ยมชมศูนย์เรียนรู้คัมภีร์อัลกุรอาน นราธิวาส 29 ก.พ.นี้ หวังใช้เป็นตัวเชื่อมการท่องเที่ยวและแหล่งเรียนรู้พหุวัฒนธรรม
นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และคณะ เตรียมเดินทางมายังพิพิธภัณฑ์มรดกวัฒนธรรมอิสลามและศูนย์เรียนรู้คัมภีร์อัลกุรอานในวันที่ 29 ก.พ. 67 เพื่อตรวจเยี่ยมราชการด้านการท่องเที่ยวในพื้นที่จังหวัดนราธิวาส และจะใช้พิพิธภัณฑ์แห่งนี้เป็นศูนย์กลางอิสลาม ตัวเชื่อมการท่องเที่ยวและแหล่งเรียนรู้พหุวัฒนธรรม
พิพิธภัณฑ์มรดกวัฒนธรรมอิสลามและศูนย์เรียนรู้คัมภีร์อัลกุรอาน ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 2553 โดยนายมาหามะนุทรี หะยีสาแม ด้วยการรวบรวมประเภทคัมภีร์อัลกุรอานโบราณที่คัดด้วยลายมือ เป็นมรดกทางศิลปวัฒนธรรมอิสลามที่ตกทอด อายุตั้งแต่ 150-1,100 ปี มีลวดลายสวยงามใช้สีประดับกรอบด้วยทองคำเปลว เขียนด้วยศิลปะมลายูนูซันตาราจีนและอาหรับผสมผสานกัน มีโครงสร้างอาคารภายนอกเป็นอาคารแบบไทยท้องถิ่นใต้ ผสมผสานลวดลายศิลปะมุสลิม
สำหรับคัมภีร์อัลกุรอานที่ถือว่าเก่าแก่ที่สุด คือ คัมภีร์อัลกุรอานที่ลงลวดลายอักษรในหนังแพะ มีอายุเก่าแก่ถึง 1,030 ปี ช่วงสมัยที่ยังไม่มีกระดาษ รองลงมาคือคัมภีร์อัลกุรอานที่ลงอักษรในเปลือกไม้ ในศตวรรษที่ 18 มีอายุกว่า 300 ปี ส่วนคัมภีร์อัลกุรอานปัจจุบันที่พิพิธภัณฑ์อัลกุรอานวัฒนธรรมอิสลามแห่งนี้ได้รับการบริจาคจากกลุ่มประเทศต่าง ๆ และได้ซ่อมแซมบูรณะตามหลักวิชาการที่ถูกต้อง มีจำนวนทั้งสิ้น 79 เล่ม ยังไม่รวมที่ต้องรอบูรณะซ่อมแซมอีกกว่า 100 เล่ม
พิพิธภัณฑ์มรดกวัฒนธรรมอิสลามแห่งนี้ จัดคัมภีร์อัลกุรอานออกเป็น 8 กลุ่ม ที่ได้รับการบริจาค คือ นูซันตาราหรืออาเซียน, อินเดีย, จีน, เปอร์เซีย, อียิปต์, สเปน, แอฟริกา และอุซเบกิสถาน นอกจากนี้ภายในอาคารมีการจัดนิทรรศการออกเป็น 3 ห้อง ได้แก่ห้องบรรยายเกริ่นนำ ห้องเกี่ยวกับการดำเนินชีวิตวิถีมุสลิมตามแนวทางที่ศาสนาบัญญัติไว้ และห้องเนื้อหาการเผยแพร่ศาสนาอิสลามสู่เอเชียตะวันออกเฉียงใต้และประเทศไทย
นายมาหามะนุทรี หะยีสาแม ประธานมูลนิธิพิพิธภัณฑ์มรดกวัฒนธรรมอิสลามและศูนย์เรียนรู้คัมภีร์อัลกุรอาน กล่าวว่า เมื่อรู้ว่าประเทศไทยเราเป็นศูนย์อนุรักษ์ เขาก็พยายามส่งต่อเพื่อมอบให้ดูแล ให้คัมภีร์ได้อยู่ในสภาพที่สมบูรณ์อยู่คงทนกับชาวมุสลิม เพื่อที่จะนำมาศึกษาวิจัยต่อไป
