DEEPSOUTH

คกก.พลังงานไฟฟ้า ชายแดนใต้ ไฟเขียว ‘โรงไฟฟ้าประชารัฐ’

คกก.พลังงานไฟฟ้า ชายแดนใต้ ไฟเขียว ‘โรงไฟฟ้าประชารัฐ’ เสริมความมั่นคงทางพลังงานจังหวัดชายแดน

วันนี้ (11 ก.ค. 65) พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานกรรมการอำนวยการบริหารโครงการพลังงานไฟฟ้าจังหวัดชายแดนภาคใต้เพื่อความมั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน เป็นประธานในการประชุมหารือเพื่อติดตามความก้าวหน้าการบริหารพลังงานไฟฟ้าแบบครบวงจรในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ณ ห้องประชุมมูลนิธิอนุรักษ์ป่ารอยต่อ 5 จังหวัด โดยมี พลเอกอนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.กระทรวงมหาดไทย และ พลเรือตรีสมเกียรติ ผลประยูร เลขาธิการ ศอ.บต. รวมทั้งผู้แทนหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ผู้ทรงคุณวุฒิ เข้าร่วม

ที่ประชุมรับทราบ มติ ครม.ผลักดันกระจายอำนาจ การบริหารจัดการพลังงานไฟฟ้าในพื้นที่นำร่องจังหวัดชายแดนใต้ ด้วยโครงการบริหารจัดการไฟฟ้าครบวงจรในพื้นที่ชายแดนใต้ผลิตไฟฟ้าจากชีวมวลและชีวภาพ เน้นการมีส่วนร่วมทุกภาคส่วน มุ่งเน้นความมั่นคงพลังงานยั่งยืน เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการพลังงาน สร้างความเข้มแข็งเศรษฐกิจฐานราก โดยใช้กลไกโรงไฟฟ้าพลังงานทางเลือกขนาดเล็ก/เล็กมาก เป็นเครื่องมือการพัฒนา แก้ปัญหาเชิงระบบและครบวงจร

นอกจากนี้ ยังเห็นชอบแนวทางการดำเนินโครงการ “โรงไฟฟ้าประชารัฐ” สำหรับพื้นที่ จังหวัดชายแดนใต้ เพื่อส่งเสริมการลงทุนภาคเอกชน และเชื่อมโยงเกษตรกรรมฐานราก ผ่านพลังงานสะอาด ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยแก้ปัญหาการขาดแคลนพลังงาน และเป็นพื้นฐานการพัฒนาเศรษฐกิจหมุนเวียนทั้งระบบ โดยมอบหมายให้ ศอ.บต.และ พง.ร่วมขับเคลื่อนอย่างใกล้ชิด และมอบ กอ.รมน.ภาค 4 (ส่วนหน้า ) ร่วมสนับสนุนการดำเนินโครงการ โดยเฉพาะ การสร้างงาน สร้างอาชีพ สร้างรายได้ให้กับประชาชนให้เป็นรูปธรรมโดยเร็ว

พร้อมกันนี้ ยังได้พิจารณาให้ความเห็นชอบ การจัดสรรโควต้าพลังงานไฟฟ้าคงเหลือ ให้กับแผนขับเคลื่อนโครงการไฟฟ้าในพื้นที่ จชต. โดยมอบให้ พง.พิจารณาโควต้าที่เหมาะสมและจัดสรรงบประมาณ จากกองทุนส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน รวม 265 ล้านบาท เพื่อนำไปเสริมและสนับสนุนการขยายพื้นที่ปลูกพืชพลังงาน รองรับโครงการโรงไฟฟ้าจังหวัด ในปี 66 – 67

พลเอกประวิตร ยังขอให้กระทรวงพลังงาน พิจารณารับข้อเสนอการใช้พืชพลังงานเป็นวัตถุดิบในการผลิตไฟฟ้า และข้อเสนอราคารับซื้อไฟตามที่ฝ่ายเลขานุการฯ เสนอ เพื่อสร้างแรงจูงใจให้ภาคเอกชนไปดำเนินการ รวมทั้ง ให้ ศอ.บต.ได้เป็นส่วนสำคัญในการให้ความเห็นและข้อเสนอแนะของภาคเอกชนที่ประสงค์จะไปพัฒนาพื้นที่ โดยต้องให้ความสำคัญสูงสุดต่อการพัฒนาเศรษฐกิจและคุณภาพชีวิตของประชาชนในพื้นที่เป็นลำดับแรก

Related Posts

Send this to a friend