‘สมศักดิ์‘ ย้ำต้องใช้การพัฒนา – สร้างรายได้ แก้ปัญหาความไม่สงบชายแดนใต้
‘สมศักดิ์‘ ย้ำต้องใช้การพัฒนา – สร้างรายได้ แก้ปัญหาความไม่สงบชายแดนใต้ ชี้ หากคนในพื้นที่ไม่มีรายได้ – อาชีพ ก็ไม่ได้ผล
วันนี้ (10 ม.ค. 67) ที่ทำเนียบรัฐบาล นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานการประชุมคณะกรรมการยุทธศาสตร์การพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้ (กพต.) ให้สัมภาษณ์ภายหลังพูดคุยกับ พล.อ. ตันศรี ดาโต๊ะ สรี ซุลกิฟลี ไซนัล อะบีดิน ผู้อำนวยความสะดวกในกระบวนการพูดคุยเพื่อสันติสุขจังหวัดชายแดนภาคใต้ ว่า ภายหลังที่ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ได้พูดคุยกับ นายอันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย เมื่อวันที่ 28 พ.ย. 66 แล้วนั้น จึงได้มอบหมายให้ตนเองได้ดูแลในเรื่องของการพัฒนา และความมั่นคงเพื่อให้เกิดประโยชน์ต่อประเทศไทย
นายสมศักดิ์ กล่าวต่อว่า ผมได้พูดคุยกับ ดาโต๊ะ ซะรี ฟาลิดา ยูโซฟ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีอีกประมาณ 3 – 4 กระทรวง ซึ่งดูแลเรื่องความมั่นคง การเกษตร และอุตสาหกรรมปศุสัตว์ ซึ่งได้มีการหารือกันในหลายเรื่อง ทั้งเรื่องชายแดน ประกอบกับการช่วยเหลือสังคมในเรื่องพหุวัฒนธรรม เช่น การเพิ่มหลักสูตรเกี่ยวกับศาสนาต่าง ๆ ส่งเสริมอาชีพเพิ่มเติมจากศาสนา ซึ่งเรื่องดังกล่าวเป็นเรื่องที่ดี เพราะคนที่เคยใช้แต่อาวุธ หากมีการช่วยเหลือในด้านการสร้างอาชีพก็จะเป็นเรื่องดี
นายสมศักดิ์ กล่าวต่อว่า รัฐบาลทั้งไทย และมาเลเซียได้หารือกันว่าจะตั้งคณะกรรมการพูดคุยทั้งสองฝ่ายอย่างเท่า ๆ กัน โดยมี พ.ต.ท.วรรณพงษ์ คชรักษ์ เลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนใต้ (ศอ.บต.) ร่วมพูดคุยด้วย เพราะเป็นเรื่องนี้เป็นเรื่องการพัฒนา และความมั่นคง ซึ่งหากคุยกันเสร็จสิ้นแล้ว แต่คนในพื้นที่ไม่มีรายได้ ไม่มีอาชีพก็ถือว่าไม่ได้ผล
นายสมศักดิ์ ระบุว่า รัฐบาลทั้ง 2 ประเทศให้ความสำคัญในเรื่องของเศรษฐกิจภาคการท่องเที่ยว ส่วนพื้นที่ชายแดนก็เป็นเรื่องหลัก เนื่องจากการที่ผู้คนออกมาในลักษณะการก่อความไม่สงบ ดังนั้นหากรัฐบาลทั้ง 2 ฝั่งให้การสนับสนุนเรื่องการพัฒนามันก็จะจบง่าย พร้อมยืนยันว่า จะทำให้ระยะเวลาการทำงานนี้ค่อนข้างเร็ว เนื่องจากเรามีเวลา 3 ปีกว่า ถ้าทำ 5 ปี คงไม่ใช่แนวทาง
นายสมศักดิ์ ยังกล่าวถึง พระราชกำหนด (พ.ร.ก.) การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 ขณะนี้ได้ยกเลิกในบางอำเภอไปแล้ว และการใช้กฎหมายความมั่นคงเหมือนเปิดทางให้เรื่องทั้งหลายง่ายขึ้น ซึ่งเรื่องรายละเอียดที่เกิดขึ้นก็ต้องแก้ที่รายละเอียด แต่ก็ต้องทำเรื่องหลักการให้ชัดเจนด้วย อย่างเช่น หากดำเนินการตาม พ.ร.บ.การรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร ม.21 แล้วเป็นอย่างไร เมื่อชัดเจนแล้วก็จะนำไปสู่จุดที่ง่ายขึ้น
“เราต้องเร่งทำเรื่องนี้ให้เร็ว เพราะถ้าไม่เร็ว เศรษฐกิจระหว่างไทย และมาเลเซียก็ต้องแข่งกับชาวโลก แม้จะมีปัญหาเรื่องชายแดนมากบ้าง น้อยบ้าง ก็ต้องเร่งแก้ปัญหาต่อไป” นายสมศักดิ์ กล่าวทิ้งท้าย
