ผบช.ภ.9 ยอมรับเหตุคาร์บอมบ์ เชื่อมโยง 20 ปี คดีตากใบ
ผบช.ภ.9 ยอมรับเหตุคาร์บอมบ์ เชื่อมโยง 20 ปี คดีตากใบ กลุ่มคนร้ายมุ่งแสดงศักยภาพและโจมตีเจ้าหน้าที่รัฐ
วันนี้ (1 ต.ค. 67) พล.ต.ท.ปิยวัฒน์ เฉลิมศรี ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 9 พร้อมด้วย เปิดเผยภายหลังการประชุมร่วมกับ พล.ต.ต.กฤษฎา จันดี รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 9 และ พ,ต.ต.ไมตรี สันตยากุล และ พ.ต.อ. ศุภชัย ณ พัทลุง ผกก.สภ.ตากใบ กรณีความคืบหน้าเหตุวางระเบิดรถยนต์หน้าบ้านพักนายอำเภอตากใบ เมื่อคืนวันที่ 29 ก.ย.67 ที่ผ่านมา โดยได้ไปดูที่เกิดเหตุ สั่งการให้หน่วยพิสูจน์หลักฐาน และ อีโอดี ตรวจสอบที่เกิดเหตุ เก็บหลักฐานได้พอสมควร ในเบื้องต้นคนร้าย ปล้นรถยนต์จากพื้นที่ใกล้เคียง มาประกอบระเบิดวางในที่เกิดเหตุ หลังจากนั้นปล้นรถจักรยานยนต์ชาวบ้านแล้วหลบหนีไป
พล.ต.ท.ปิยวัฒน์ กล่าวถึงกรณีคนร้ายจงใจหลบหนีไปประเทศมาเลเซีย เป็นลักษณะที่กระทำแบบนี้เป็นปกติในพื้นที่ อ.ตากใบ ซึ่งได้คุยกับทางแม่ทัพภาคที่ 4 ในการติดตามสถานการณ์ เพราะมีหลักฐานชัดแจน แต่เมื่อหลบหนีไปฝั่งประเทศเพื่อนบ้าน ทำให้จับกุมได้ยาก
“ในเบื้องต้นการตรวจพบถังดับเพลิงผลิตในประเทศมาเลเซีย จะต้องตรวจสอบเพิ่มเติม ซึ่งด้วยเหตุที่เป็นชายแดนที่เชื่อมต่อกันง่าย ทำให้ต้องหามาตรการปิดกั้นให้มีประสิทธิภาพกว่านี้”
พล.ต.ท.ปิยวัฒน์ ไม่ปฏิเสธว่า เหตุวางระเบิดคาร์บอมบ์ เชื่อมโยงกับ 20 ปีคดีตากใบ เพราะเรื่องตากใบ ในพื้นที่ จ.นราธิวาส ถูกก่อเหตุใหญ่มาต่อเนื่อง ส่วนที่เชื่อมโยงกันก็อยู่ในยุทธศาสตร์ ซึ่งเป็นการแสดงศักยภาพ ลดความน่าเชื่อถือของรัฐ
ส่วนพฤติการณ์ใหม่ ที่ปล่อยรถไหล ผบช.ภ.9 ขอดูรายละเอียดเพิ่มเติม รวมถึง ความเชื่อมโยง ทั้ง 3 เหตุ ซึ่งน่าจะเป็นกลุ่มเดียวกันแบ่งหน้าที่กันทำ ตามปกติ จำนวนคนร้ายประมาณ 10 คน ส่วนกรณีที่สามีเจ้าของรถยนต์ที่ถูกปล้นเป็นทหาร ก็เป็นเป้าหมายเจ้าหน้าที่รัฐ ที่ต้องระวัง รวมถึงเป้าหมายการวางไว้หน้าบ้านพักนายอำเภอ
ส่วนเหตุปล้นปืนที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าฮาลาบาลา อ.แว้ง จ.นราธิวาส เมื่อสัปดาห์ก่อน อยู่ระหว่างการติดตามตัวคนร้าย ซึ่งเป็นกลุ่มที่อยู่ในจังหวัดนราธิวาส ที่เจ้าหน้าที่มีข้อมูลอยู่แล้ว