DEEPSOUTH

แม่ทัพภาคที่ 4 นำแถลงผลตรวจค้นแหล่งพักพิงผู้ก่อการร้ายบนเทือกเขากรงปินัง ยะลา พบอาวุธเตรียมก่อเหตุ กว่า 1,200 รายการ

แม่ทัพภาคที่ 4 แถลงผลการตรวจค้นแหล่งพักพิง ผู้ก่อการร้าย บนเขาเทือกเขาตะโล๊ะสโตร์ อ.กรงปินัง จ.ยะลาได้ของกลางพยานหลักฐานกว่า 1,288 รายการเมื่อวันที่ 16ธ.ค. 62 เวลา 10.30 น. ที่ กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ค่ายสิรินธร ต.เขาตูม อ.ยะรัง ต.ปัตตานี พลโทพรศักดิ์ พูลสวัสดิ์ แม่ทัพภาคที่ 4 พร้อมด้วย พลตำรวจโท รณศิลป์ ภู่สาระ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 9 นายเจษฎา จิตรัตน์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดยะลาพลตรีอาคม พงศ์พรหม ผบ.ฉก.ยะลาพล.ต.ต.ปราบพาล มีมงคล ผบ.กกล.ตร.ยะลา และ พ.อ.คมกฤช รัตนฉายา ผบ.กกล.ทพ.จชต.ได้ร่วมกันแถลงผลการตรวจค้นแหล่งพักพิงกลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรง ที่บริเวณเขาตะโล๊ะสโตร์ อ.กรงปินัง จ.ยะลาซึ่งเจ้าหน้าที่ได้ขยายผลติดตามจนพบแหล่งพักพิงและซุกซ่อนอาวุธอุปกรณ์ที่เตรียมก่อเหตุนับ 1,288 รายการ

พลโทพรศักดิ์ พูลสวัสดิ์ แม่ทัพภาคที่ 4 กล่าวว่า จากกรณีกลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรง ได้สังหารหมู่ประชาชนผู้บริสุทธิ์ ที่รักษาความปลอดภัย บ้านทางลุ่ม หมู่ 5 ต. ลำพะยา อ. เมือง จ.ยะลาเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต จำนวน 15 รายและบาดเจ็บสาหัสอีก จำนวน 5 ราย นั้น และเมื่อวันที่ 21 พ.ย.62 เจ้าหน้าที่ได้รับทราบข่าว จากแหล่งข่าวว่า มีคนร้ายจำนวน 2 ราย ที่ ก่อเหตุที่บ้านทางลุ่ม เข้ามาหลบซ่อน ในบ้านแนวร่วมที่บ้าน คอลอตันหยง อ.หนองจิก จ.ปัตตานี จนเกิดการปะทะกับเจ้าหน้าที่ เป็นผลให้คนร้ายทั้ง 2 ราย เสียชีวิต

ภายหลังได้เข้าตรวจสอบ จากหลักฐานที่ตรวจยึดได้ จากคนร้าย ประกอบกับการขยายผลจากการซักถาม ภาพข่าวและภาพเหตุการณ์ จนนำไปสู่การสนธิกำลังเจ้าหน้าที่ 3 ฝ่าย ลาดตระเวนพิสูจน์ทราบแหล่งหลบซ่อนพักพิงของกลุ่มบุคคลเป้าหมาย บริเวณพื้นที่ภูเขาบ้านตะโล๊ะสโตร์ ต.สะเอะ อ.กรงปินัง จ.ยะลา และได้เกิดการปะทะกันขึ้น เมื่อวันที่ 4 ธ.ค.62 นั้น โดย เมื่อวันที่ 4 ธ.ค. 62 เวลา 13.30 น.เจ้าหน้าที่ได้สนธิกำลังร่วม 3 ฝ่าย เข้าดำเนินการติดตามจับกุม และขยายผลบุคคลเป้าหมาย กลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรงโดยหน่วยปฏิบัติการพิเศษร่วมจังหวัดยะลา ได้ปะทะกับกลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรง ประมาณ 8 –12 คน ซึ่งหลบหนีมาซ่อนตัว ที่บ.ตะโล๊สะโตร์ หมู่ 6 ต.สะเอะ อ.กรงปินัง จ.ยะลา ภายหลังทราบเหตุตนจึงได้สั่งการให้หน่วยเฉพาะกิจยะลา จัดตั้งที่ทำการยุทธวิธี หน่วยเฉพาะกิจยะลา โดยจัดกำลังร่วมระหว่างหน่วยเฉพาะกิจ กรมทหารพรานที่ 33 ,41 และ 47 พร้อมกำลังชุดจู่โจมเคลื่อนที่ทางอากาศ ชุดปฏิบัติการจรยุทธ์รวม 13 ชุดเข้าปฏิบัติการสกัดกั้น ไม่ให้กลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรงหลบหนี

พลตำรวจโท รณศิลป์ ภู่สาระ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 9 กล่าวว่า จากผลการปฏิบัติ สามารถตรวจยึดอาวุธ และสิ่งของที่ใช้ในการก่อเหตุรุนแรง ได้จำนวนหลายรายการ ที่สำคัญ คือ อาวุธปืนเล็กยาว M.16 A.2 จำนวน 1 กระบอก อาวุธปืนพก ขนาด 9 มม.จำนวน 1 กระบอก และระเบิดแสวงเครื่องแบบท่อ (ไปร์บอมบ์) จำนวน2 ลูก ซองกระสุน ปืนเล็กยาว M.16 จำนวน 4 ซองพร้อมเครื่องกระสุนปืน ขนาด 5.56 มม. และ 9 มม. อีกจำนวนหนึ่ง จึงได้ขยายผลตรวจค้นบริเวณจุดเกิดเหตุ และพื้นที่ใกล้เคียงโดยรอบ

เนื่องจากคาดว่า บริเวณดังกล่าวน่าจะเป็นฐานปฏิบัติการของกลุ่มคนร้าย เพราะลักษณะภูมิประเทศโดยรอบตรงกับหลักนิยม ของผู้ก่อเหตุรุนแรงที่มักใช้เป็นพื้นที่ ตั้งฐานปฏิบัติการเจ้าหน้าที่จึงได้ตรวจสอบตามภูมิประเทศใกล้เคียงที่คาดว่า จะมีการซุกซ่อนอาวุธ หรือสิ่งของที่ใช้ในการก่อเหตุรุนแรงจนสามารถค้นพบและตรวจยึด วัตถุพยาน ได้1,288 รายการ จากจุดที่ฝังและซุกซ่อน จำนวน 42 จุด โดยมีรายละเอียดที่สำคัญ คือ ปืนเล็กยาว M. 16A. 2 จำนวน 1 กระบอก ปืนพกขนาด 9 มม. จำนวน 1 กระบอก ปืนพก ขนาด .38 จำนวน 1 กระบอก ชิ้นส่วน ปืนเล็กยาวจำนวนหลายรายการ กระสุนปืน ขนาด 5.56 มม.ไม่ต่ำกว่า 50 นัด กระสุนปืน ขนาด .38 Super จำนวน 36นัด ปลอกกระสุนปืน ขนาด 5.56 มม. ไม่ต่ำกว่า 30 นัด ซองกระสุน ปืนเล็กยาว. M. 16 จำนวน 7 ซอง วัตถุระเบิดแรงสูง (PETN) จำนวน 4 ถุงน้ำหนักไม่ต่ำกว่า 4 กิโลกรัมปุ๋ยแอมโมเนียไนเตรท สำหรับใช้ทำดินระเบิด น้ำหนักไม่ต่ำกว่า 6กิโลกรัม เหล็กเส้นตัดสำหรับทำเป็นสะเกิดระเบิด น้ำหนักรวมประมาณ 70 กิโลกรัม ระเบิดแสวงเครื่องแบบท่อ (ไปป์บอมบ์) พร้อมใช้งาน จำนวน 9 ลูก ระเบิดแสวงเครื่องแบบขว้าง ประกอบพร้อมใช้งาน จำนวนหนึ่ง แผง วงจรอิเล็กทรอนิกส์ พร้อมประกอบเป็นวัตถุระเบิด จำนวนมาก วิทยุสื่อสารและระบบวงจรทางสาย สำหรับจุดระเบิด หลายรายการ

นอกจากนี้ยังพบ เครื่องแต่งกายเลียนแบบเจ้าหน้าที่ทหาร ยา รวมทั้งเวชภัณฑ์และอื่นๆ อีกหลายรายการ

“จากหลักฐานที่ตรวจค้นเจอเชื่อได้ว่า พื้นที่ดังกล่าวเป็นแหล่งพักพิงและแหล่งซุกซ่อนสิ่งของสำหรับส่งกำลังของกลุ่มคนร้าย ที่ใช้เตรียมก่อเหตุในพื้นที่ โดยของกลาง ที่ตรวจยึดได้ทั้งหมดจะเร่งรัดดำเนินการ ตรวจสอบทางนิติวิทยาศาสตร์ โดยมอบหมายให้ กองกำลังตำรวจจังหวัดชายแดนภาคใต้ เป็นหน่วยรับผิดชอบ เพื่อขยายผลไปยัง กลุ่มกลุ่มคนร้ายที่ยังหลบหนี มาดำเนินคดีทางกฎหมาย โดยเร็วที่สุดต่อไป สำหรับผู้ที่ให้การสนับสนุนกลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรง ทั้งการให้ที่พักพิง เป็นฝ่ายโลจิสติกส์และการสนับสนุนการก่อเหตุ ถือว่ามีความผิดในอัตราโทษเช่นเดียวกับ ผู้ก่อเหตุรุนแรงจึงขอฝากย้ำเตือนไปยังผู้ให้การสนับสนุน ยุติพฤติกรรมดังกล่าวเพราะมีความผิดตามกฎหมาย” ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 9 กล่าว

พลโท พรศักดิ์ พูลสวัสดิ์ แม่ทัพภาคที่ 4 กล่าวเพิ่มเติมอีกว่า สำหรับการแก้ปัญหาในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ นั้นจะประสบความสำเร็จได้ ก็ต้องได้รับความร่วมมือจากพี่น้องประชาชนในพื้นที่ที่ช่วยกันสอดส่องเป็นหูเป็นตาให้กับเจ้าหน้าที่ อย่างกรณีเหตุวิสามัญ 2คนร้ายในพื้นที่ อ.ยะรัง จ.ปัตตานี ที่ผ่านมา ก็ได้รับข่าวสารจากพี่น้องในพื้นที่จนสามารถติดตามเข้าพิสูจน์ทราบได้ส่วนพี่น้องประชาชนท่านใดที่ยังคงรู้สึกไม่ปลอดภัยหากจะแจ้งเบาะแสให้กับเจ้าหน้าที่สามารถโทรหา แม่ทัพภาคที่ 4 ได้ที่หมายเลข 06-1173-2999 ซึ่งขอรับรองความปลอดภัยให้กับผู้แจ้งทุกราย

Related Posts

Send this to a friend