BUSINESS

ศูนย์วิจัยกสิกรไทย คาด นทท.เข้าไทย 4 ล้านคน หลังปรับมาตรการ

วันที่ (30 เม.ย. 65) ศูนย์วิจัยกสิกรไทย เปิดเผยว่า วันที่ 1 พ.ค. 65 ที่มีการเปิดประเทศเต็มรูปแบบ มีการผ่อนคลายเงื่อนไขสำหรับชาวต่างชาติที่จะเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศค่อนข้างมาก เมื่อเทียบกับสถานการณ์การระบาดของโควิดในประเทศ จะช่วยให้ประเทศไทยเป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทางของนักท่องเที่ยวจากชาติต่างๆ สะท้อนจากผลการจัดอันดับ Asia’s travel readiness index ของ Economist Intelligence (EIU) ที่พบว่า ประเทศไทยถูกจัดอยู่ในอันดับต้น ๆ ของประเทศที่มีมาตรการผ่อนการเดินทางท่องเที่ยว (Ease of Travel) ในภูมิภาคเอเชีย

ศูนย์วิจัยกสิกรไทย มองว่า การผ่อนคลายเงื่อนไขการเดินทางเข้าประเทศของชาวต่างชาติ โดยกลุ่มที่ได้รับการฉีดวัคซีนครบไม่ต้องตรวจ RT-PCR และการปรับลดวงเงินประกันภัยสำหรับชาวต่างชาติทุกกลุ่มเหลือ 10,000 เหรียญสหรัฐ จากเดิม 20,000 เหรียญสหรัฐ ขณะที่การเปิดจุดผ่านแดนถาวร 31 ด่าน ใน 17 จังหวัด เพื่อเปิดรับการเดินทางท่องเที่ยวทางบก ซึ่งจะมีผลตังแต่วันที่ 1 พ.ค. นี้ เช่นกัน จะเป็นก้าวสำคัญในการเดินหน้าขับเคลื่อนภาคการท่องเที่ยว และช่วยให้ตลาดนักท่องเที่ยวต่างชาติเที่ยวไทยในช่วงที่เหลือของปี 2565 นี้ กลับมามีบรรยากาศที่สดใสขึ้น

การปรับเงื่อนไขครั้งนี้เป็นการช่วยอำนวยความสะดวกในการเดินทาง รวมถึงลดค่าใช้จ่ายในการเดินทางท่องเที่ยว และเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันด้านการท่องเที่ยวระหว่างประเทศมากขึ้น เนื่องจากในหลายประเทศได้กลับมาทำตลาดกระตุ้นการท่องเที่ยวและผ่อนคลายเงื่อนไขการเดินเข้าประเทศของชาวต่างชาติ เช่น สิงคโปร์ ผ่อนคลายให้ชาวต่างชาติที่ได้รับการฉีดวัตซีนสามารถเดินทางเข้าประเทศโดยไม่ต้องกักตัว (Vaccinated Travel Lane – VTL) เป็นต้น

จากปัจจัยดังกล่าว ศูนย์วิจัยกสิกรไทยคาดว่า จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติน่าจะค่อย ๆ เร่งตัวขึ้น โดยเฉพาะในช่วงครึ่งหลังของปี 2565 เนื่องจากจะเข้าสู่ฤดูกาลการเดินทางท่องเที่ยวของนักท่องเที่ยวจากหลายชาติ อาทิ ในช่วงไตรมาส 3 ของทุกปี (ประมาณเดือน ก.ค. และ ส.ค.) จะเป็นฤดูกาลท่องเที่ยวของนักท่องเที่ยวภูมิภาคตะวันออกกลาง อินเดีย ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ จีน และอาเซียน เนื่องจากเป็นช่วงฤดูร้อนและเป็นช่วงปิดภาคเรียน ขณะที่ไตรมาส 4 จะเข้าสู่ฤดูกาลท่องเที่ยวจากภูมิภาคยุโรป อเมริกา และโอเชียเนีย

อย่างไรก็ตาม ศูนย์วิจัยกสิกรไทยยังมีมุมมองที่ระมัดระวัง เนื่องจากตลาดยังมีหลายปัจจัยท้าทายที่อาจส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นและการตัดสินใจเดินทางยังต่างประเทศของนักท่องเที่ยวได้ อาทิ การดำเนินนโยบายการเดินทางต่างประเทศของประเทศต้นทาง เพื่อควบคุมการระบาดของโควิด เช่น นโยบายปลอดโควิด (Zero COVID Policy) ของจีน ซึ่งหากจีนยังไม่ปรับเปลี่ยนการใช้นโยบายดังกล่าว ก็จะทำให้นักท่องเที่ยวจีนน่าจะยังไม่สามารถเดินทางมาไทยได้อย่างปกติในปีนี้ รวมถึงเหตุการณ์ระหว่างรัสเซียและยูเครน และมาตรการคว่ำบาตรรัสเซียจากหลายประเทศ

ศูนย์วิจัยกสิกรไทย จึงมองว่า จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติเที่ยวไทยสำหรับทั้งปี 2565 อาจอยู่ที่ราว 4 ล้านคน (หรือคิดเป็นรายได้การท่องเที่ยวเป็นมูลค่าประมาณ 2.4 แสนล้านบาท) ทั้งนี้ หากสถานการณ์ระหว่างรัสเซียและยูเครนไม่รุนแรง มองว่า นักท่องเที่ยวจากภูมิภาคยุโรปยังเป็นตลาดที่สำคัญของการท่องเที่ยวไทยในปีนี้ โดยคาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวจากยุโรปเดินทางมาท่องเที่ยวในไทยประมาณ 1.8 ล้านคน ขณะที่ภูมิภาคเอเชียตะวันออกน่าจะมีจำนวน 1.7 ล้านคน โดยนักท่องเที่ยวจากทั้ง 2 ภูมิภาคคิดเป็นสัดส่วนประมาณ 86% ของจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติเที่ยวไทยทั้งหมดในปีนี้

Related Posts

Send this to a friend