BUSINESS

“บริทาเนีย” โชว์รายได้ปี 65 ทำกำไรแตะ 1,471 ล้าน พร้อมเผยแผนกลยุทธ์ปี 66 ตั้งเป้ายอดขายกว่า 13,000 ล้าน

นายสุรินทร์ สหชาติโภคานันท์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บริทาเนีย จำกัด (มหาชน) หรือ BRI ผู้พัฒนาบ้านจัดสรร ประกาศความสำเร็จปี 2565 กวาดกำไรสุทธิ All Time High แตะ 1,471 ล้าน พร้อมเดินหน้าลุยต่อเนื่องปี 2566 ภายใต้แผนการดำเนินกลยุทธ์ 3 B หรือ“B To The Top” ประเดิมด้วย B The Growth,B The Craft ,B The Goodness เพื่อสู่เป้าหมายผู้นำบ้านจัดสรร ระดับท็อปหลากมิติ พร้อมตั้งเป้ายอดขายปี 2566 กว่า 13,000 ล้าน และรายได้รวมอีก 9,000 ล้าน

นายสุรินทร์ เปิดเผยว่า “ในปี 2565 ที่ผ่านมา บริษัทมีรายได้รวมอยู่ที่ 6,296 ล้านบาท เติบโต 65% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า และมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 1,471 ล้านบาท เติบโตถึง 144% ได้รับการตอบรับที่ดีจากทั้งกลุ่มโครงการเปิดขายใหม่ และโครงการที่อยู่ระหว่างขาย และโอนกรรมสิทธิ์ สะท้อนถึงความมั่นใจของผู้บริโภค ที่มีต่อแบรนด์บ้านจัดสรรในเครือบริทาเนีย”

ในปี 2566 บริษัทจึงเตรียมแผนเดินหน้าธุรกิจอย่างต่อเนื่อง ภายใต้กลยุทธ์ “B To The Top” สู่เป้าหมายผู้นำธุรกิจพัฒนาบ้านจัดสรรระดับท็อปใน 3 มิติ ได้แก่

1.B The Growth นำพาองค์กรเติบโตสู่ระดับท็อปของตลาด ด้วยการเปิดตัวโครงการใหม่สูงที่สุด นับตั้งแต่ก่อตั้งบริษัท หรือ All Time High จำนวน 20 โครงการ มูลค่าโครงการรวม 22,500 ล้านบาท ยกทัพแบรนด์ในเครือทั้ง 4 แบรนด์ ได้แก่ เบลกราเวีย (Belgravia) แกรนด์ บริทาเนีย (Grand Britania) บริทาเนีย (Britania) และไบรตัน (Brighton) ร่วมบุกตลาดทุกเซ็กเมนท์ กระจายตัวบุกทั้งในกรุงเทพฯและปริมณฑล อาทิ สมุทรปราการ นนทบุรี ปทุมธานี เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก หรือ EEC อย่างชลบุรี ระยอง ฉะเชิงเทรา ตลอดจนหัวเมืองใหญ่ในต่างจังหวัด นำร่องที่ขอนแก่นด้วยบริทาเนีย มะลิวัลย์ และบริทาเนีย อยุธยา

“เราประเมินว่าปีนี้บ้านทุกระดับราคา จะมีความต้องการต่อเนื่อง เป็นสาเหตุให้เรานำแบรนด์เบลกราเวีย ซึ่งเป็นแบรนด์ระดับลักชัวรี กลับมาร่วมบุกตลาดพร้อมกับอีก 3 แบรนด์ และจะมีทั้งโครงการบ้านเดี่ยว บ้านแฝด ทาวน์โฮม ตลอดจนโครงการที่เป็นมิกซ์โปรดักส์ เปิดตัวอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้เราสามารถเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง ยั่งยืน และสร้างคุณค่าที่ตอบสนองความต้องการของผู้บริโภค ปีนี้โฟกัสหลักของเราจะมุ่งไปที่ตลาดใหญ่ที่สุดของปีนี้ อย่างตลาดบ้าน 5-10 ล้าน ซึ่งเป็นเซ็กเมนท์ที่มีกำลังซื้อแข็งแกร่ง โดยมีฟังก์ชันตอบโจทย์การอยู่อาศัยร่วมกัน ระหว่างคนหลากเจเนอเรชั่น รองรับประเทศก้าวสู่สังคมผู้สูงอายุ”

2.B The Craftมุ่งมั่นสู่การเป็นแบรนด์ บ้านจัดสรรระดับท็อปในใจผู้บริโภค (Top of Mind Brand) ด้วย Culture หรือวัฒนธรรมองค์กร Craft Mindset อย่างต่อเนื่อง พร้อมส่งมอบประสบการณ์ที่ลูกค้าให้คุณค่า (Customer Value) ในการสร้างสรรค์ ดูแล และบริการที่ยกระดับให้แก่ผู้บริโภค ผ่านนวัตกรรมการอยู่อาศัย พื้นที่ส่วนกลาง ที่ตั้งใจออกแบบจาก Customer Insight การดูแลความปลอดภัย ตอกย้ำวิสัยทัศน์ CRAFT a life you love ดีที่สุดคือใช้ชีวิตในแบบที่รัก ด้วยความเข้าใจและใส่ใจวิถีชีวิตของลูกค้าในทุกแบบบ้านอย่างลึกซึ้ง

3.B The Goodness มุ่งมั่นเป็นองค์กรที่รับผิดชอบต่อสังคม ทั้งในโครงการและชุมชนรอบด้าน อาทิ โครงการ CRAFT PARK สร้างพื้นที่สีเขียวสาธารณะเพื่อชุมชน ซึ่งเป็นโมเดลความร่วมมือของภาคเอกชน ภาคสังคม และชุมชน ตั้งแต่จุดเริ่มต้นตั้งแต่การออกแบบลงมือทำ ตลอดจนเดินหน้าเพื่อสิ่งแวดล้อม ภายใต้โครงการ B GREEN มุ่งสู่เป้าหมาย Net Zero ในปี 2050 ผ่านการดำเนินงานตลอดห่วงโซ่คุณค่าตั้งแต่ต้นน้ำ คือ การออกแบบ เลือกใช้วัสดุฉลากเขียว และการก่อสร้าง การเพิ่มพื้นที่สีเขียว การจัดการขยะ จนถึงปลายน้ำ คือ สนับสนุนการใช้พลังงานสะอาด ตั้งเป้าติดตั้งโซลาร์ รูฟท็อป ณ คลับเฮ้าส์ทุกโครงการ และติดตั้งจุดเชื่อมต่อ EV Charger ให้กับบ้านทุกหลัง เพื่อส่งต่อคุณค่าของความรู้สึกภาคภูมิใจ ในการเป็นส่วนหนึ่งของการช่วยรักษาโลก จากการเลือกซื้อบ้านที่คำนึงถึงการสร้างสิ่งแวดล้อมที่ดี

“นอกจากเป้าหมายภายใต้แนวคิด B To The Top ทั้ง 3 มิติแล้ว ในเชิงธุรกิจนั้น บริษัท ตั้งเป้ายอดขายทั้งปีไว้ที่ 13,000 ล้านบาท พร้อมเป้ารายได้รวมอีก 9,000 ล้านบาท ซึ่งถือเป็นเป้าหมายการเติบโตแบบ All Time High บริษัทมั่นใจว่า ด้วยแผนการกระจายบุกเปิดตัว โครงการใหม่ทุกแบรนด์ ทุกเซ็กเมนท์ ทุกทำเล การเดินหน้ายกระดับฟังก์ชัน และนวัตกรรมการอยู่อาศัยให้ตอบโจทย์ผู้บริโภค การเดินหน้าทำการตลาดอย่างต่อเนื่อง ตลอดจนสภาพเศรษฐกิจที่ฟื้นตัว จะช่วยให้บริษัทสามารถเดินหน้าประสบความสำเร็จได้ตามเป้า”

Related Posts

Send this to a friend