BUSINESS

เริ่มวันนี้ มาตรการลดค่าจดทะเบียนโอนและจำนองอสังหาฯ เหลือ 0.01%

คลังคาด ช่วยกระตุ้นการซื้อขายที่อยู่อาศัยกว่า 2.91 แสนล้านบาท ช่วยผู้ประกอบการกลับมาทำธุรกิจได้อีกครั้ง

วันนี้ (18 ม.ค. 65) น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า วานนี้(17 ม.ค. 65) ราชกิจจานุเบกษาได้เผยแพร่ประกาศกระทรวงมหาดไทยรวม 4 ฉบับ กำหนดให้มีการลดค่าการจดทะเบียนการโอนอสังหาริมทรัพย์จาก 2% และค่าจดทะเบียนจำนองจาก 1% เหลือ 0.01% เพื่อกระตุ้นและฟื้นฟูเศรษฐกิจปี 2565 รักษาระดับกิจกรรมทางเศรษฐกิจในภาคอสังหาริมทรัพย์และธุรกิจที่เกี่ยวเนื่อง ตลอดจนสนับสนุนการปรับปรุงโครงสร้างหนี้ช่วยเหลือให้ลูกหนี้มีสภาพคล่องและผู้ประกอบการกลับมาประกอบธุรกิจได้เร็วขึ้น

สำหรับการปรับลดค่าจดทะเบียนโอนและจดทะเบียนจำนองอสังหาริมทรัพย์ เป็นส่วนหนึ่งของมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่ผ่านการอนุมัติจากที่ประชุมคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 21 ธ.ค. 2564 แบ่งการดำเนินการเป็น 2 กรณี คือ

กรณีแรก เพื่อลดภาระให้กับประชาชนที่มีการซื้อขายอสังหาริมทรัพย์ โดยกระทรวงมหาดไทยได้ออกประกาศ 2 ฉบับ มีผลเป็นการลดค่าจดทะเบียนการโอนและค่าจดทะเบียนจำนองอสังหาริมทรัพย์ตามประมวลกฎหมายที่ดินกรณีอาคารที่อยู่อาศัย (บ้านเดี่ยว บ้านแฝดและบ้านแถว) หรืออาคารพาณิชย์ หรือที่ดินพร้อมอาคารดังกล่าว และห้องชุดในอาคารชุด ซึ่งจดทะเบียนนิติบุคคลอาคารชุดตามกฎหมายว่าด้วยอาคารชุด ราคาซื้อขายและประเมินทุนทรัพย์ไม่เกิน 3 ล้านบาท วงเงินจำนองไม่เกิน 3 ล้านบาท มีการโอนและจดจำนองในคราวเดียวกันโดยในส่วนนี้จะมีผลตั้งแต่วันที่ 18 ม.ค. – 31 ธ.ค. 2565

รัฐบาลคาดว่า มาตรการในส่วนนี้จะช่วยบรรเทาภาระให้ผู้ที่ต้องการมีที่อยู่อาศัยเป็นของตนเองในระดับราคาที่ไม่สูงมาก และช่วยรักษาระดับกิจกรรมทางเศรษฐกิจในภาคอสังหาริมทรัพย์ รวมถึงธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับภาคอสังหาฯ ในสถานการณ์โควิด-19 โดยกระทรวงการคลังได้ประเมินว่า มาตรการดังกล่าวจะช่วยกระตุ้นให้เกิดการซื้อขายอสังหาฯ มูลค่าประมาณ 2.91 แสนล้านบาท ช่วยเพิ่มการบริโภคในประเทศได้ 7.4 หมื่นล้านบาท เพิ่มการลงทุนประมาณ 1.35 แสนล้านบาท และส่งผลให้จีดีพีเพิ่มขึ้น 0.58%

ส่วนกรณีที่ 2 เป็นมาตรการลดค่าธรรมเนียมเพื่อสนับสนุนการปรับปรุงโครงสร้างหนี้ โดยกระทรวงมหาดไทยได้ออกประกาศ 2 ฉบับ มีผลเป็นการลดค่าจดทะเบียนโอนและจดจำนองในอัตราเดียวกันกับกรณีแรกคือเหลือ 0.01% สำหรับกรณีที่มีการโอนและจำนองอสังหาริมทรัพย์เพื่อการปรับโครงสร้างหนี้ระหว่างลูกหนี้ ซึ่งรวมถึงผู้ค้ำประกันกับสถาบันการเงิน หรือกับบริษัทที่มิใช่สถาบันการเงิน เช่น บริษัทบัตรเครดิต บริษัทสินเชื่อส่วนบุคคล บริษัทสินเชื่อเพื่อการประกอบอาชีพ บริษัทสินเชื่อรายย่อยระดับจังหวัด ธุรกิจให้เช่าซื้อ ให้เช่าแบบลีสซิ่ง เป็นต้น

สำหรับกรณีลดค่าธรรมเนียมเพื่อสนับสนุนการปรับโครงสร้างหนี้ มีผลบังคับตั้งแต่วันนี้ ไปจนถึงวันทที่ 31 ธ.ค. 2569 รวมระยะเวลา 5 ปี กระทรวงการคลังประเมินว่าการดำเนินการมาตรการดังกล่าว จะช่วยเหลือให้ลูกหนี้ได้รับความช่วยเหลือจนมีสภาพคล่องเพิ่มขึ้น และสามารถฟื้นฟูฐานะและกิจการ สามารถประกอบอาชีพต่อไปได้ ส่วนเจ้าหนี้และระบบสถานบันการเงิน ในภาพรวมมีต้นทุนลดลง สามารถให้สินเชื่อแก่ประชาชนและธุรกิจต่างๆ ได้เพิ่มขึ้น

Related Posts

Send this to a friend