BUSINESS

“ปศุสัตว์” ชี้ส่งออกเนื้อหมู-ผลิตภัณฑ์แปรรูป ไม่กระทบมาก

หลังไทยประกาศโรค ASF พร้อมปฏิบัติตามข้อแนะนำ “OIE” และเงื่อนไขประเทศนำเข้าอย่างเคร่งครัด

วันนี้ (17 ม.ค.65) นายสัตวแพทย์สรวิศ ธานีโต อธิบดีกรมปศุสัตว์ กล่าวว่า หลังจากรายงานเรื่องโรคระบาด ASF ไปยังองค์การสุขภาพสัตว์โลก (OIE) เมื่อวันที่ 14 ม.ค.65 เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมและรับมือผลกระทบด้านการส่งออกเนื้อสุกรและผลิตภัณฑ์ในประเทศไทย กรมปศุสัตว์จึงสั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ศึกษาถึงผลกระทบและเงื่อนไขในการส่งออกเนื้อสุกรและผลิตภัณฑ์ของประเทศผู้นำเข้าต่าง ๆ เพื่อให้เกิดผลกระทบให้น้อยที่สุด โดยจากการค้นคว้าข้อมูลและตามระเบียบประเทศคู่ค้า และตามหลักมาตรฐานสากล คาดการณ์ว่า การส่งออกเนื้อสุกรดิบและผลิตภัณฑ์แปรรูปจากสุกร จะไม่มีผลกระทบมากนัก เนื่องจากประเทศไทยมีตลาดส่งออกหลักทั้งเนื้อสุกรดิบและสุก ที่ยอมรับในการปฏิบัติตามคำแนะนำของ OIE และเงื่อนไขของประเทศผู้นำเข้าที่กำหนด

โดยตลาดส่งออกหลักของเนื้อสุกรดิบคือ ฮ่องกง ส่วนเนื้อสุกรสุกหรือผลิตภัณฑ์แปรรูปจากสุกร ตลาดหลักคือ ญี่ปุ่นและฮ่องกง ซึ่งการส่งออกในกรณีที่ประเทศมีการระบาดของโรค ASF ในสุกร จะพิจารณาตามข้อแนะนำ OIE และเงื่อนไขประเทศผู้นำเข้าที่กำหนดไว้เป็นการเฉพาะ เช่น เป็นการห้ามทั้งประเทศ หรือ ห้ามเป็นพื้นที่ หรือห้ามเป็นฟาร์ม โดยมีข้อกำหนด ดังนี้

1.การส่งออกเนื้อสุกรดิบ สำหรับบางประเทศที่ไม่ได้ห้ามนำเข้า กรมปศุสัตว์จะอนุญาตให้ส่งออกต่อเนื่อง โดยควบคุมการผลิตเนื้อสุกร ไม่ให้มีเชื้อ ASF ปนเปื้อนในกระบวนการผลิต เช่น กำหนดแหล่งที่มาของสุกร ต้องมาจากฟาร์มมาตรฐาน GAP การตรวจหาเชื้อ ASF ในสุกรมีชีวิตก่อนส่งโรงฆ่า และได้รับอนุญาตให้เคลื่อนย้ายโดยเป็นไปตามแนวทางข้อกำหนดของกรมปศุสัตว์ และในโรงฆ่าสัตว์เพื่อการส่งออกจะมีสุ่มเก็บตัวอย่างเนื้อสุกรทุกฟาร์ม (100%) เพื่อเฝ้าระวังเชื้อ ASF ในสุกรปนเปื้อนก่อนอนุญาตให้ส่งออก หรือนำไปแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์อาหารของคน หรืออาหารสัตว์เลี้ยง

2.ผลิตภัณฑ์เนื้อสุกรปรุงสุก OIE ได้กำหนดเงื่อนไขการทำลายเชื้อไวรัส ASF ในสุกร ดังนี้ การทำลายเชื้อไวรัส ASF ในเนื้อสุกรต้องผ่านความร้อน 70 องศาเซลเซียส ระยะเวลาอย่างน้อย 30 นาที หรือ อาหารกระป๋อง F0≥ 3 หรือเนื้อสุกรผ่านการหมักด้วยเกลือและตากแห้งอย่างน้อย 6 เดือน และใน casing จากสุกรต้องหมักเกลือหรือน้ำเกลือ (Aw < 0.8) หรือสารประกอบเกลือฟอสเฟต 86.5%NaCl + 10.7%Na2HPO4 + 2.8%Na3PO4 เป็นระยะเวลาอย่างน้อย 30 วัน

3.กรณีที่บางประเทศกำหนดเงื่อนไขการนำเข้าเป็นการเฉพาะ กรมปศุสัตว์จะเร่งเจรจากับหน่วยงานที่รับผิดชอบของประเทศนั้น ๆ เพื่อขอส่งสินค้าเนื้อสุกรปรุงสุกหรือผลิตภัณฑ์แปรรูปจากสุกร ให้ได้อย่างต่อเนื่อง เช่น สำหรับส่งออกเนื้อสุกรและผลิตภัณฑ์แปรรูปผ่านความร้อน ประเทศสิงคโปร์มีข้อกำหนดต้องมาจากประเทศที่ต้องปลอดจากโรค ASF ในสุกรอย่างน้อย 3 เดือน ก่อนวันเชือดและวันส่งออก ประเทศฟิลิปปินส์กำหนดห้ามการนำเข้าเนื้อสุกรและผลิตภัณฑ์จากประเทศที่มีรายงานโรค ASF ในสุกร สำหรับการส่งออกเนื้อสุกรแช่เย็น/แช่แข็ง ในฮ่องกงมีข้อกำหนดเนื้อสุกรต้องมาจากสุกรมีชีวิตในพื้นที่ปลอดจากโรค swine fever ในช่วง 12 เดือนที่ผ่านมา ตาม Health certificate ในอินเดียกำหนดให้ต้องมาจากประเทศที่ต้องปลอดจากโรค ASF ในสุกร หรือสำหรับประเทศที่พบ ASF ในสุกรหากมีแผนเฝ้าระวังและมีการกำหนดพื้นที่ปลอดโรคตาม OIE สามารถส่งออกเนื้อสุกรสดได้ เป็นต้น

4.การส่งออกเนื้อสุกรดิบ และสินค้าเนื้อสุกรปรุงสุกหรือผลิตภัณฑ์แปรรูปจากสุกร ในปี 2565 จะพิจารณาจากท่าทีและเงื่อนไขของประเทศผู้นำเข้า และปัจจัยอื่น ๆ เช่น สถานการณ์โควิด-19 คาดว่าในปี 2565 การส่งออกน่าจะมีปริมาณใกล้เคียงกับปีที่ผ่านมาโดยส่งออกประมาณ 23,000 ตัน มูลค่า 3,646 ล้านบาท

การส่งออกสุกรมีชีวิต เพื่อแก้ปัญหาราคาเนื้อหมูแพง ภาครัฐได้มีมาตรการระยะเร่งด่วนจากกระทรวงพาณิชย์ โดยคณะกรรมการกลางว่าด้วยราคาสินค้าและบริการได้ประกาศห้ามส่งออกสุกรมีชีวิตไปนอกราชอาณาจักรเป็นเวลา 3 เดือน (6 มกราคม – 5 เมษายน 2565) ซึ่งหลังจากนี้จะมีการพิจารณาถึงแนวทางให้เหมาะสมตามสถานการณ์ต่อไป

Related Posts

Send this to a friend