GCC เตือน 6 อุตสาหกรรมรับมือ CBAM – พ.ร.บ.โลกร้อน ก่อนต้นทุนพุ่ง
GCC เตือน 6 อุตสาหกรรมส่งออก-ในประเทศ 6.5 ล้านล้าน รับมือ CBAM – พ.ร.บ.โลกร้อน แนะองค์กรใหญ่เร่งปรับตัวรับกฎหมายใหม่ก่อนต้นทุนพุ่ง
นายตรีเทพ ปาลกะวงศ์ ณ อยุธยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โกลบอล คาร์บอน คอร์ปอเรชั่น จำกัด (GCC) เปิดเผยว่า ตั้งแต่ 1 ต.ค. 66 สหภาพยุโรป (EU) ประกาศบังคับใช้มาตรการปรับราคาคาร์บอนก่อนข้ามพรมแดน (CBAM) กับผู้ผลิตและส่งออกสินค้าใน 6 อุตสาหกรรมไปยังสหภาพยุโรป ได้แก่ เหล็กและเหล็กกล้า อะลูมิเนียม ซีเมนต์ ปุ๋ย ไฟฟ้า และไฮโดรเจน ส่งผลให้ต้องรายงานการปล่อยก๊าซเรือนกระจก มีต้นทุนในการแข่งขันมากขึ้น ขีดความสามารถการแข่งขันลดลง
มาตรการ CBAM กำลังจะบังคับใช้เต็มรูปแบบวันที่ 1 ม.ค. 69 ผู้ส่งออกจะต้องรับภาระเพิ่มเติมจากการช่วยจ่ายค่า ‘ใบรับรอง CBAM’ ให้แก่ผู้นำเข้า ตามปริมาณก๊าซเรือนกระจกที่ปล่อย ขณะที่ปี 69 ประเทศไทยน่าจะเริ่มประกาศใช้ พ.ร.บ.การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (พ.ร.บ.โลกร้อน) ซึ่งจะส่งผลกระทบทางตรงแก่หลากหลายอุตสาหกรรมภายใต้การบังคับใช้ 3 เฟส คิดเป็นมูลค่าอุตสาหกรรมรวมกว่า 6.5 ล้านล้านบาท หรือ 37% ของ GDP
พ.ร.บ.การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ จะกำหนดหน้าที่ทางกฎหมายโดยตรงต่อผู้ประกอบการเกี่ยวกับการปล่อยก๊าซเรือนกระจก มีทั้งข้อบังคับด้านการปล่อยก๊าซฯ กลไกด้านภาษี ตลอดจนการมีส่วนร่วมของภาคส่วนต่าง ๆ สิ่งที่น่ากังวลคือ ผู้ประกอบการส่วนใหญ่ยังไม่ได้ตระหนักถึงผลกระทบและต้นทุนที่กำลังจะเกิดขึ้น ซึ่งท้ายสุดจะส่งผลให้ต้องเสียภาษีคาร์บอนในอัตราที่สูง โดยอุตสาหกรรมที่จะได้รับผลกระทบภายใต้ 3 เฟส ได้แก่
เฟสที่ 1 (ปี 2569) ภาคขนส่ง พลังงาน สาธารณูปโภค โลหะและอโลหะ (เหล็ก อะลูมิเนียม) รวมมูลค่าอุตสาหกรรม 1.71 ล้านล้านบาท หรือ 10% ของ GDP
เฟสที่ 2 อุตสาหกรรมปิโตรเลียม ยาง พลาสติก การขุดเจาะปิโตรเลียม เคมีภัณฑ์ เหมืองถ่านหิน กระดาษและเยื่อกระดาษ รวม 1.77 ล้านล้านบาท หรือ 10% ของ GDP
เฟสที่ 3 อุตสาหกรรมเกษตรและปศุสัตว์ อาหารและเครื่องดื่ม คอมพิวเตอร์และอิเล็กทรอนิกส์ อุปกรณ์ไฟฟ้า รวม 3.02 ล้านล้านบาท หรือ 17% ของ GDP รวมถึงภาคอุตสาหกรรมการจัดการของเสีย ที่มีมูลค่ารวมโดยประมาณอีกหลายหมื่นล้านบาท
กลุ่มอุตสาหกรรมอื่น ๆ ที่เป็นซัพพลายเออร์ของอุตสาหกรรมเหล่านี้ มีแนวโน้มจะได้รับผลกระทบทางอ้อม เนื่องจากวิธีการบันทึกการปล่อยก๊าซเรือนกระจกจะคำนวณลงไปถึงห่วงโซ่อุปทาน ทำให้ผู้ผลิตในอุตสาหกรรมจะต้องการปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจกจากซัพพลายเออร์ รวมถึงมีมาตรการคุมเข้มอื่น ๆ เพื่อให้ต้นทุนภาษีคาร์บอนของตัวเองลดลง
ทั้งนี้ โกลบอล คาร์บอน คอร์ปอเรชั่น ให้บริการจัดการก๊าซเรือนกระจกทั้งช่วงเปลี่ยนผ่านก่อนกฎหมายบังคับใช้ และหลังจากกฎหมายบังคับใช้ พร้อมช่วยเหลือองค์กรที่ต้องการปรับตัวเพื่อรับมือทั้งผลกระทบจากมาตรการ CBAM และกฎหมายใหม่ที่จะบังคับใช้ในปี 2569












