BUSINESS

COTTO เดินหน้าพัฒนา ‘สินค้ารักษ์โลก’ ลดการใช้ทรัพยากรใหม่

COTTO เดินหน้าพัฒนา ‘สินค้ารักษ์โลก’ ลดการใช้ทรัพยากรใหม่ และลด CO2 จากการขนส่ง ชูจุดเด่น คุณภาพสูง ดีไซน์สวย ยกระดับที่อยู่อาศัยยั่งยืน

COTTO ภายใต้ SCG Decor แบรนด์กระเบื้องและสุขภัณฑ์ ผลักดันโมเดล Circular Economy ตั้งแต่กระบวนการผลิต (Green Process) สู่การพัฒนาสินค้ารักษ์โลก (Green Product) โดยสินค้าทุกตัวเน้นการใช้วัสดุที่นำกลับมาใช้ใหม่ 80% ลดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์จากการขนส่ง 75% ตอบโจทย์ผู้บริโภคทั้งคุณภาพสินค้าที่ใช้งานได้จริงและยืนยาว ควบคู่กับงานดีไซน์สวยงาม ยกระดับมาตรฐานด้านการอยู่อาศัยอย่างยั่งยืน

ปราปต์ พึ่งรัศมี ผู้จัดการฝ่ายการตลาด บริษัท เอสซีจี เซรามิกส์ จำกัด (มหาชน)

นายปราปต์ พึ่งรัศมี ผู้จัดการฝ่ายการตลาด บริษัท เอสซีจี เซรามิกส์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า COTTO ตระหนักถึงปัญหาภาวะโลกร้อน และมุ่งสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อโลก เดินหน้าสู่เป้าหมาย NET ZERO Carbon Emission ภายในปี 2050 เน้นย้ำเรื่องของความยั่งยืนตั้งแต่กระบวนการคิด ผลิต ไปจนถึงทำลาย ควบคู่ไปกับดีไซน์ที่สวยงาม ตอบโจทย์ในเรื่องการตกแต่ง และฟังก์ชั่นการใช้งานที่มาพร้อมคุณภาพ มาตรฐานระดับสูง ยกระดับการชีวิตความเป็นอยู่ให้ดีขึ้น

“ล่าสุดในงานสถาปนิก’67 ที่ผ่านมา นับเป็นการตอกย้ำความสำเร็จอีกขั้นของ COTTO ที่ได้หยิบยกนวัตกรรมวัสดุตกแต่ง (Eco Collection) สรรค์สร้างงานศิลป์ สะท้อน Climate Change ภายใต้คอนเซปต์ COTTO ‘reform the new sustainable result, made by you.’ โดยโจทย์นี้มีสารตั้งต้นมาจากแบรนด์ DNA ของ COTTO ที่ต้องการจะสื่อสารให้เห็นว่า เราสามารถรักษ์โลกไปพร้อม ๆ กับ การยกระดับชีวิตให้ดีและเท่ขึ้นได้ด้วย” นายปราปต์ กล่าว

ปัจจุบัน COTTO นำวัตถุดิบหมุนเวียนมาใช้ในแต่ละปีกว่า 120,000 ตัน เพื่อลดการใช้ทรัพยากรใหม่จากธรรมชาติ โดยมีกระบวนการผลิตกระเบื้องผ่านกระบวนการที่ใช้ระบบบำบัดน้ำเสียและรีไซเคิลใช้ภายในโรงงานสูงสุด 83% การใช้พลังงานจากชีวมวลทดแทนพลังงานฟอสซิลในการผลิตกระเบื้องที่ช่วยลดคาร์บอนไดออกไซด์ปีละ 5,500 ตัน CO2 การใช้พลังงานหมุนเวียนจากโซล่าเซลล์ 21% ในการผลิตสุขภัณฑ์ ก๊อกน้ำ สร้าง waste to value ได้ปีละ 17,500 รวมทั้งการเปลี่ยนมาใช้รถ EV forklift แบบ 100% จากกิจกรรมดังกล่าว ช่วยลดการปล่อยคาร์บอนจากการขนส่งได้ประมาณ 75% และลดการใช้ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ได้ประมาณปีละ 32,000 ตัน CO2/ปี

นอกจากนี้ COTTO ยังได้รับเครื่องหมายรับรองด้านมาตรฐานทางสิ่งแวดล้อมต่างๆ เช่น Carbon Reduction Label ฉลากลดคาร์บอน Carbon Footprint for Organization (CFO) ปริมาณก๊าซเรือนกระจกที่ปล่อยออกจากกิจกรรมต่าง ๆ ขององค์กร และ Environmental Product Declaration (EPD) การประเมินวัฏจักรชีวิตผลิตภัณฑ์ของกระเบื้องเอ็กซ์พอร์ซเลน และรายงานผลกระทบที่เป็นสำคัญอย่างน้อย 3 มิติ ได้แก่ Global Warming, Ozone Layer Depletion, Eutrophication รับรองโดยสถาบันสิ่งแวดล้อมไทย

“อีกหนึ่งความมุ่งมั่นของ COTTO คือนอกจากการพัฒนาสินค้า โดยคำนึงถึงคุณภาพของสินค้าต้องใช้ได้จริง ดีไซน์สวย และให้ความสำคัญกับสิ่งแวดล้อมแล้ว เรายังมุ่งเน้นฟังก์ชันต่าง ๆ ที่จะเพิ่มเข้ามาในอนาคต อาทิ การผลิตกระเบื้องดักจับฝุ่น กระเบื้องกันลื่น สำหรับผู้สูงอายุ และเด็กวัยกำลังซน พร้อมพัฒนาไปถึงกระเบื้องลดกลิ่นสำหรับบ้านที่มีสัตว์เลี้ยง เพื่อรองรับความต้องการของลูกค้าที่เพิ่มมากขึ้น และตอบโจทย์ในกลุ่มคนทุก Gen ทุกเทรนด์ ได้อย่างครอบคลุม” นายปราปต์ กล่าวปิดท้าย

Related Posts

Send this to a friend