ลอรีอัล กรุ๊ป แถลงผลประกอบการไตรมาส 3/68 โต 4.9% ยอดขายรวม 3.28 หมื่นล้านยูโร พร้อมประกาศดีลใหญ่ ‘Kering’
ลอรีอัล กรุ๊ป แถลงผลการดำเนินงานไตรมาส 3 ปี 2568 มีการเติบโต 4.9% (เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว) โดยมียอดขายรวม 3.28 หมื่นล้านยูโร บริษัทระบุว่ามีการเติบโตในทุกแผนกและทุกภูมิภาค โดยช่องทางออนไลน์ยังคงเติบโตในระดับสองหลัก
นอกจากนี้ ลอรีอัล กรุ๊ป ยังประกาศความร่วมมือเชิงกลยุทธ์ระยะยาวกับ เคอริง (Kering) ข้อตกลงนี้ประกอบด้วยการเข้าซื้อกิจการแบรนด์น้ำหอม “ครีด” (Creed) และข้อตกลงการอนุญาตสิทธิ์ผลิตภัณฑ์ความงามและน้ำหอมระยะ 50 ปี สำหรับแบรนด์ กุชชี่ (Gucci), บอตเตก้า เวเนต้า (Bottega Veneta) และ บาเลนเซียกา (Balenciaga) การเป็นพันธมิตรยังครอบคลุมการร่วมทุนแบบ 50:50 เพื่อสำรวจโอกาสทางธุรกิจด้านการดูแลสุขภาพและการมีอายุยืนยาวอย่างมีคุณภาพ (Longevity)
นาย นิโคลา ฮิโรนิมุส ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของลอรีอัล กรุ๊ป กล่าวว่า การเป็นพันธมิตรกับเคอริงและการเข้าซื้อกิจการครีด จะทำให้ลอรีอัลเป็นหนึ่งในผู้เล่นชั้นนำในกลุ่มน้ำหอมเฉพาะกลุ่ม (niche fragrances) และยังเห็นศักยภาพการเติบโตของข้อตกลงอนุญาตสิทธิ์แบรนด์ กุชชี่, บอตเตก้า เวเนต้า และ บาเลนเซียกา “ขณะที่เรากำลังเข้าสู่ไตรมาสสุดท้ายของปี ผมมั่นใจว่าเราจะยังคงทำผลงานได้ดีกว่าตลาดความงามทั่วโลก และประสบความสำเร็จทั้งการเติบโตของยอดขายและผลกำไรได้อีกปีหนึ่ง” นาย นิโคลา ฮิโรนิมุส กล่าว
สำหรับผลการดำเนินงานตามแผนก (เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว) มีดังนี้ -แผนกผลิตภัณฑ์ช่างผมมืออาชีพ เติบโต +7.4% -แผนกผลิตภัณฑ์อุปโภค เติบโต +3.1% -แผนกผลิตภัณฑ์ความงามชั้นสูง เติบโต +2.2% -แผนกผลิตภัณฑ์เวชสำอาง เติบโต +3.7%
สรุปตามภูมิภาค (เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว) มีดังนี้ -ยุโรป เติบโต +3.6% -อเมริกาเหนือ เติบโต +1.8% -ละตินอเมริกา เติบโต +8.2% -เอเชียเหนือ เติบโต +0.5% -SAPMENA–SSA (เอเชียแปซิฟิกใต้ ตะวันออกกลาง และแอฟริกาเหนือ-แอฟริกาใต้สะฮารา) เติบโต +11.0%
ภูมิภาค SAPMENA–SSA ถือเป็นภูมิภาคที่เติบโตสูงสุด โดยลอรีอัลระบุว่า การเติบโตในภูมิภาค SAPMENA (เอเชียแปซิฟิกใต้ ตะวันออกกลาง และแอฟริกาเหนือ) มีแรงขับเคลื่อนจากแผนกเวชสำอาง (ลา โรช-โพเซย์, เซราวี) และแผนกผลิตภัณฑ์ช่างผมมืออาชีพ (เคเรสตาส) ประเทศที่มีการเติบโตสูงสุดได้แก่ เวียดนาม, กลุ่มประเทศความร่วมมืออ่าวอาหรับ (GCC), ไทย, อินเดีย และกลุ่มออสเตรเลีย-นิวซีแลนด์
นอกจากนี้ นิตยสาร TIME จัดอันดับ 3 นวัตกรรมของลอรีอัล กรุ๊ป ให้อยู่ในสิ่งประดิษฐ์ยอดเยี่ยมแห่งปี 2025 (The Best Inventions of 2025) ได้แก่ แอร์ไลท์ โปร (AirLight Pro), ลังโคม เรเนอร์จี นาโน-รีเซอร์เฟซเซอร์ (Lancôme Rénergie Nano-Resurfacer) และ สารเมลาซิล (Melasyl)













