กาตาร์ แอร์เวย์ส กรุ๊ป ทุบสถิติทำกำไรสุทธิกว่า 55.2 พันล้านบาท ในปีงบประมาณ 66/67

กาตาร์ แอร์เวย์ส กรุ๊ป เผยผลประกอบการที่มั่นคงที่สุดในประวัติการณ์ตลอด 27 ปีที่ผ่านมา เปิดผลกำไรสูงสุดในรายงานประจำปี สำหรับปีงบประมาณ 2566/67 กว่า 55.2 พันล้านบาท (1.7 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ) พร้อมรายได้รวมทั้งหมด 738.65 พันล้านบาท (22.2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ) เติบโตขึ้นกว่า 43.21 พันล้านบาท (1.3 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ) หรือคิดเป็น 6% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา
กาตาร์ แอร์เวย์ส กรุ๊ป สร้างผลกำไรก่อนดอกเบี้ยและภาษี (EBITDA) อย่างมั่นคงถึง 24% คิดเป็นกว่า 172.05 พันล้านบาท (5.2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ) เพิ่มขึ้นราว 9.97 พันล้านบาท (0.3 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ) จากปีที่ผ่านมา การเติบโตดังกล่าวถือเป็นการปูทางสำหรับอนาคตของธุรกิจสายการบินที่ได้ให้บริการกับผู้โดยสารกว่า 40 ล้านคน ในปีงบประมาณ 2566/67 ซึ่งเพิ่มขึ้นถึง 26% จากปีที่ผ่านมา ขณะที่รายได้จากผู้โดยสารเพิ่มขึ้นถึง 19% โดย 21% ของยอดดังกล่าวมาจากการบรรจุผู้โดยสารได้สูงสุดถึง 83% สะท้อนถึงการเติบโตอย่างมั่นคงและยั่งยืนของบริษัทในตลาด
ซาอัด เชอริดา อัล-คาบี รัฐมนตรีพลังงาน และประธานกรรมการ กาตาร์ แอร์เวย์ส กรุ๊ป กล่าวว่า ผลประกอบการประจำปีล่าสุด เป็นผลลัพธ์จากความยืดหยุ่นและความสามารถในการฟื้นตัวอย่างรวดเร็วของกาตาร์ แอร์เวย์ส กรุ๊ป ที่สามารถปรับตัวเข้ากับอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวที่มีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลาได้สำเร็จ นอกจากนี้ ยังแสดงถึงการเอาชนะความท้าทายที่เกิดขึ้นในภาคอุตสาหกรรมตลอดหลายปีที่ผ่านมา ด้วยการเติบโตอย่างมั่นคงและยั่งยืน
บาดร์ โมฮัมเหม็ด อัล-เมียร์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มสายการบินกาตาร์ แอร์เวย์ส กล่าวว่า ผลประกอบการที่มั่นคงนี้ตอกย้ำถึงพันธกิจและแนวทางอันแน่วแน่ที่นำมาซึ่งความก้าวหน้าของกลุ่มสายการบินตลอดปีงบประมาณ 2566/67 การให้ความสำคัญกับการทำกำไร ประสิทธิภาพ และประสบการณ์ของลูกค้าอย่างต่อเนื่อง ช่วยให้เรามีรายได้และกำไรสูงที่สุดในประวัติการณ์ของสายการบิน เราจะใช้ความสำเร็จในครั้งนี้เป็นแรงผลักดันสู่ความสำเร็จในครั้งต่อ ๆ ไป
นอกจากนี้ กาตาร์ แอร์เวย์ส คาร์โก ยังคงครองตำแหน่งผู้ขนส่งคาร์โกทางอากาศชั้นนำของโลก ด้วยการมุ่งเน้นด้านดิจิทัล ความยั่งยืน และการเติบโต ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยเพิ่มส่วนแบ่งในตลาดคาร์โกถึง 7.1% ในปีงบประมาณ 2566/67 เพิ่มขึ้น 0.04% จากปีที่ผ่านมา
ส่วนกาตาร์ เอ็กเซ็กคูทีฟ (QE) ยังสร้างผลประกอบการทางธุรกิจที่มั่นคงในตลาดที่มีการแข่งขันสูง ในฐานะผู้ให้บริการเครื่องบินส่วนตัวเพียงหนึ่งเดียวที่บริหารและอยู่ภายใต้กรรมสิทธิ์ของสายการบินเชิงพาณิชย์อย่างครบวงจร จากการเติบโตอย่างต่อเนื่องตลอดปีงบประมาณ 2566/67 พบว่าจำนวนกลุ่มผู้โดยสารที่เช่าเครื่องบินเพื่อจุดประสงค์ทางธุรกิจได้เพิ่มขึ้นกว่า 17% พร้อมกับชั่วโมงบินที่เพิ่มขึ้นกว่า 21%
สำหรับการลงทุนในโปรแกรมสะสมคะแนนพรีวิเลจคลับของกาตาร์ แอร์เวยส์ ในปีงบประมาณ 2566/67 มีการเพิ่มจำนวนสมาชิกมากกว่า 26% และการมีส่วนร่วมของสมาชิกเพิ่มขึ้นสูงสุดในประวัติการณ์ โดยมีการสะสมแต้ม Avios เพิ่มขึ้นกว่า 50% ขณะที่การแลกแต้ม Avios เพิ่มขึ้น 75%
ทั้งนี้ กาตาร์ แอร์เวย์ส ขยายเครือข่ายเส้นทางการบินมากกว่า 170 จุดหมายปลายทางในปีงบประมาณ 2566/67 โดยเพิ่มจุดหมายปลายทางใหม่ เช่น เมืองอัลอูลา เนออม และทาบุค ประเทศซาอุดีอาระเบีย เมืองลียง และ โตโลซ์ ประเทศฝรั่งเศส เมืองเมดัน ประเทศอินโดนีเซีย และ เมืองตราบซอน ประเทศตุรกี ตลอดทั้งปี
ขณะเดียวกัน ยังกลับมาเปิดให้บริการไปยังจุดหมายปลายทาง 14 แห่ง ได้แก่ เมืองบาห์เรน ประเทศบาห์เรน เมืองเบอร์มิงแฮม ในสหราชอาณาจักร เมืองปักกิ่ง เฉิงดู และ ฉงชิง ในประเทศจีน เมืองดาเวา ในประเทศฟิลิปปินส์ โตเกียว ฮาเนดะ และ โอซาก้า ในประเทศญี่ปุ่น เมืองมาราเคช ประเทศโมร็อกโก เมืองนีซ ประเทศฝรั่งเศส เมืองปีนัง ประเทศมาเลเซีย เมืองพนมเปญ ประเทศกัมพูชา เมืองรัสอัลคายมาห์ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์และเมืองยั่นบู ประเทศซาอุดีอาระเบีย
กาตาร์ แอร์เวย์ส กรุ๊ป ยังคงเดินหน้าขยายพอร์ตโฟลิโอสปอนเซอร์ทั่วโลกในช่วงปีงบประมาณ 2566/67 ครอบคลุมถึงการเป็นสายการบินพันธมิตรอย่างเป็นทางการของทีมฟุตบอล FC Internazionale Milano (Inter) การต่อสัญญาพันธมิตรกับ FIFA จนถึงปี 2573 การเป็นพันธมิตรกับทีมคริกเก็ต Royal Challengers Bangalore (RCB) ในลีกพรีเมียร์อินเดีย (IPL) และการเป็นพันธมิตรเชิงกลยุทธ์อย่างเป็นทางการกับ Expo 2023 โดฮา
กาตาร์ แอร์เวย์ส