ASEAN

การประชุมสุดยอดอาเซียน ครั้งที่ 35 เริ่มขึ้นอย่างเป็นทางการ เน้นความร่วมมือทุกมิติทั้งในและนอกภูมิภาค ภายใต้แนวคิด “ร่วมมือ ร่วมใจ ก้าวไกล ยั่งยืน”

พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธานในพิธีเปิดการประชุมสุดยอดอาเซียน ครั้งที่ 35 และการประชุมสุดยอดที่เกี่ยวข้อง ซึ่งจัดขึ้นที่ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุมอิมแพ็ค เมืองทองธานี ภายใต้แนวคิด “ร่วมมือ ร่วมใจ ก้าวไกล ยั่งยืน”

นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า จากสภาวะเศรษฐกิจและสภาวะการของโลกที่เปลี่ยนแปลงไป ทั้ง ปัญหาอาชญากรรมข้ามชาติ ขยะทะเล สภาพภูมิอากาศ การพัฒนาทุนมนุษย์ การรับมือกับเทคโนโลยี สภาพเศรษฐกิจโลก การเชื่อมโยงกันระหว่างสมาชิกอาเซียนและพันธมิตรนอกภูมิภาค ทั้งด้านกายภาพและแหล่งทุน จะทำให้อาเซียนสามารถรับมือกับความท้าทายในระดับโลกได้ จุดแข็งของอาเซียนจะเป็นส่วนสำคัญต่อการแก้ปัญหาในภูมิภาคและระดับโลก โดยอาเซียนมุ่งเน้นพัฒนาเศรษฐกิจที่ยั่งยืนภายใต้หลัก 3 M คือ เคารพซึ่งกันและกัน การไว้เนื้อเชื่อใจ และการแสวงหาผลประโยชน์ร่วมกัน ผ่านการวางกติกาที่สอดคล้องต่อความร่วมมือและการสร้างกลไกเพื่อลดปัญหาอุปสรรคข้อพิพาทต่างๆในภูมิภาค เช่น แนวทางการปฏิบัติต่อกรณีทะเลจีนใต้ การผลักดันข้อตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาค หรือ อาเซป รวมถึงกรอบความร่วมมืออื่นๆ

ซึ่งตลอดปีที่ผ่านมาที่ไทยทำหน้าที่ประธานอาเซียน สามารถผลักดันความร่วมมือจนบรรลุเป้าหมายได้ในหลายประการ หนึ่งในนั้นคือการจัดตั้ง 7 ศูนย์อาเซียน ที่ไทยหวังว่าจะเป็นประโยชน์ต่อประชาชนอาเซียนต่อไปในอนาคต

ทั้งนี้ก่อนที่จะมีพิธีเปิดการประชุมสุดยอดอาเซียนอย่างเป็นทางการ นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมสุดยอดอาเซียน-จีน ครั้งที่ 22 เพื่อกำหนดทิศทางความสัมพันธ์และความร่วมมือระหว่างอาเซียนกับจีน รวมทั้งแลกเปลี่ยนข้อคิดเห็นในประเด็นระดับภูมิภาคและระหว่างประเทศที่อยู่ในความสนใจ ร่วมกัน

นายกรัฐมนตรีย้ำถึงความสัมพันธ์ระหว่างอาเซียนกับจีน ที่ถือว่าได้พัฒนาความสัมพันธ์มากที่สุดประเทศหนึ่งในรอบ 10 ปีที่ผ่านมา ถือเป็นเสาหลักสำคัญที่ค้ำจุนสันติภาพ เสถียรภาพ ความเจริญรุ่งเรือง และความยั่งยืนของภูมิภาค และหวังว่าความสัมพันธ์ระหว่างอาเซียน-จีน จะเจริญเติบโตยิ่งขึ้น เพื่อความผาสุกและผลประโยชน์ของประชาชนทั้งสองฝ่าย

โดยเฉพาะความเป็นหุ้นส่วนยุทธศาสตร์อาเซียนและจีน ที่ได้รับรอง วิสัยทัศน์ความเป็นหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์อาเซียน-จีน ค.ศ. 2030 ถือเป็นแนวทางความสัมพันธ์อย่างรอบด้านระหว่างกัน โดยจีนยังคงตำแหน่งคู่ค้าอันดับหนึ่งของอาเซียน และมีเป้าหมายที่จะเพิ่มมูลค่าการค้าและการลงทุนระหว่างกันถึง 1 ล้านล้าน และ 150 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ภายในปีหน้า

ทั้งนี้นายกรัฐมนตรียังได้เชิญชวนให้อาเซียนและจีน รวมถึงประเทศที่สาม เข้ามาลงทุนใน EEC ในภาคตะวันออกของไทย โดยอาเซียนและจีนกำหนดให้ปี พ.ศ. 2563 เป็นปีแห่งความร่วมมือด้านเศรษฐกิจดิจิทัลอาเซียน-จีน จึงเชื่อมั่นว่าจะช่วยขยายโอกาสทางเศรษฐกิจและการค้า เพื่อความมั่งคั่งของภูมิภาค

Related Posts

Send this to a friend