นายกรัฐมนตรีกล่าวปาฐกถาต่อนักธุรกิจอาเชียน พร้อมเดินหน้าพัฒนาร่วมกับภูมิภาค ย้ำบ้านเมืองมีเสถีรภาพ-ปรองดอง ผ่านการเลือกตั้งตามระบอบประชาธิปไตย เตรียมขยายบทบาทภูมิภาค ภายใต้แนวคิด “ร่วมมือร่วมใจ ก้าวไกลยั่งยืน” เชื่อมโยง ระบบอิเล็กทรอนิกส์ One Stop Service ให้ครบทั้ง 10 ประเทศ ยืนยันเป็นนายกสมัยที่ 2 พร้อมจะเป็นนายกที่เรียบร้อยเรื่องใดไม่สำคัญก็จะไม่ตอบ
พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวปาฐกถา ในการประชุมผู้นำธุรกิจอาเซียนครั้งที่ 5 ในหัวข้อ The Future of Thailand and ASEAN ซึ่งเป็นการกล่าวปาฐกถาครั้งแรก กับนักธุรกิจต่างประเทศ หลังชนะการเลือกตั้งเป็นนายกรัฐมนตรีสมัยที่ 2 ว่า ไทยมีพร้อมจะเดินหน้าไปพร้อมกับภูมิภาค ซึ่งปัจจุบันไทยมีเสถียรภาพ ก้าวพ้นสถานการณ์ความไม่สงบ มีความปรองดอง ผ่านการเลือกตั้งระบอบประชาธิปไตย และสามารถแก้ปัญหาคั่งค้างที่เป็นอุปสรรคต่อการพัฒนาประเทศ เช่น การประมงผิดกฎหมาย การปราบปรามการค้ามนุษย์ และในโอกาสที่ได้รับความไว้วางใจจากประชาชนให้ทำหน้าที่ต่อ ยืนยันจะพยายามปฎิบัติหน้าที่อย่างเต็มที่ เพื่อสานต่อนโยบาย
โดยในปี 2561ดัชนีเศรษฐกิจไทย บ่งชี้ว่าสถานการณ์ในประเทศด้ขึ้น เศรษฐกิจขยายตัวร้อยละ 4.1สูงสุดในรอบ 6 ปี มูลค่าส่งออกระดับ 2.53 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ สูงเป็นประวัติการณ์ และการลงทุนรวมขยายตัวร้อยละ 3.8 สูงที่สูดในรอบ 6 ปี เช่นกัน
ด้านการท่องเที่ยว ปี 61 เพิ่มขึ้น 2.9ล้าน ตั้งเป้าปีนี้จะมีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้าประเทศ 40 ล้านคน ซึ่งจะเป็นแหล่งรายได้สำคัญ ขณะเดียวกันมีเงินสำรองในประเทศสูงเป็นอันดับ 12 ของโลก ขณะทีขั้นตอนการอนุญาตกฎระเบียบในการทำธุรกิจ มีการแก้ไขให้ได้รับความสดวกในอันดับต้นของโลกและเป็นอันดับ3ในอาเซียน และมีการส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล ต่อยอดอุตสาหกรรมเดิม รองรับอุตสาหกรรมใหม่ ผ่านเขตเศรษฐกิจพิเศษตะวันออกหรือ EEC .ซึ่งเป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจอาเซียน และมีนโยบายพัฒนาประเทศอย่างต่อเนื่องและมีการกำหนดยุทธศาสตร์ชาติ20 ปี ซึ่งเป็นกรอบในการพัฒนาประเทศ นำพาประเทศชาติมั่นคงประชาชนมีความสุข รวมถึงแก้ปัญหาความเหลื่อมล้ำ
ขณะเดียวกันได้มีการเตรียมความพร้อมรองรับ ปัญญาประดิษฐ์ หรือระบบ AI. ทำงานแทนคน