สถานการณ์ชายแดนไทย-เมียนมา มีสัญญาน ที่ดีหลัง 2 ฝ่ายเจรจาหยุดยิง คาดสงบในสิ้นปีนี้

ผบ.ฉก.ร.14 เผย สถานการณ์ชายแดนไทย-เมียนมา มีสัญญานที่ดี หลัง 2 ฝ่ายเจรจาหยุดยิง คาดชายแดนสงบภายในสิ้นปีนี้ เพื่อเป็นของขวัญปีใหม่ให้กับทุกฝ่าย
วันนี้ (29 ธ.ค. 64) ผู้สื่อข่าว The Reporters สัมภาษณ์ พ.อ.ณรงค์ชัย เจริญชัย ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารราบที่ 14 และ พล.ต.ต.ปกปภพ บดีพิทักษ์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดตาก ถึงสถานการณ์การสู้รบในฝั่งเมียนมา และการดูแลความสงบเรียบร้อยของเจ้าหน้าที่ทหารและตำรวจในบริเวณชายแดนพื้นที่จังหวัดตาก
พ.อ.ณรงค์ชัย เจริญชัย ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารราบที่ 14 เปิดเผยว่าสถานการณ์ในห้วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมาว่าเงียบสงบลงกว่าเดิม ซึ่งเป็นนิมิตหมายที่ดีคาดว่าทั้งสองฝ่ายพูดคุยเจรจาเป็นไปในทางที่ดี การขอความร่วมมือกับทางเมียนมานั้นก็ได้รับการตอบรับที่ดีขึ้น พี่น้องประชาชนผู้หนีภัยเองก็มีความมั่นใจและสมัครใจเดินทางกลับไปมากขึ้น เนื่องจากเป็นช่วงเก็บเกี่ยวผลผลิต และดูแลปศุสัตว์ อย่างเช่นตอนนี้ในพื้นที่ปลอดภัยลดลงจาก 5 จุดเหลือ 2 จุดเท่านั้น จึงคาดว่าสถานการณ์จะสงบลงภายในสิ้นปีนี้ได้ เพื่อเป็นของขวัญปีใหม่ให้กับทุกคน
“เราประเมินว่าถ้าในพื้นที่ฝั่งตรงข้ามไม่มีการสู้รบและสงบลง พี่น้องประชาชนที่หนีภัยความไม่สงบมา อยากและพร้อมจะกลับบ้านแล้ว หลายคนห่วงบ้าน ห่วงปาล์ม ห่วงการประกอบอาชีพทำมาหากิน เราหวังว่าจะเป็นของขวัญปีใหม่ให้กับทุกฝ่าย อยากให้ทุกคนกลับไปมีความสุขอีกครั้งเหมือนวันที่เราคุยกันได้”
พ.อ.ณรงค์ชัย ยังได้กล่าวถึงการบูรณาการความร่วมมือระหว่างหน่วยงานในพื้นที่จังหวัดตากว่า ปัจจุบันทุกภาคส่วน ทั้งส่วนราชการ พี่น้องประชาชน และภาคเอกชนให้ความช่วยเหลือเป็นอย่างดี ช่วงนี้ยังห่วงสถานการณ์โควิด ในการควบคุมจึงต้องขยับไปที่ ต.มหาวัน ซึ่งเป็นจุดที่การช่วยเหลือทางสาธารณูปโภคและการแพทย์มีอยู่เพียงพอตามความเหมาะสมและดียิ่ง
“ขอกล่าวในนาม ฉกร.14 พี่น้องประชาชน ตำรวจจังหวัดตาก ตำรวจตระเวนชายแดน อาสาหมู่บ้าน ในพื้นที่จังหวัดตากว่า เรามีความพร้อมที่จะดูแลความปลอดภัยในชีวิตทรัพย์สินพี่น้องประชาชน เรากับตำรวจภูธรจังหวัดตากได้ทำงานร่วมกันมาตลอด ในสถานการณ์นี้เราควบคุมสถานการณ์ได้ มีความพร้อมตลอด ขอให้ทุกคนมีความมั่นใจ ขอบคุณพี่น้องประชาชนทุกส่วนและในอำเภอแม่สอดและอำเภอพบพระที่ช่วยเหลือกันในยามที่พี่น้องฝั่งโน้นประสบความลำบาก น่าภูมิใจว่าคนไทยเรามีน้ำใจ” พ.อ. ณรงค์ชัยกล่าว
พ.อ.ณรงค์ชัย ชี้แจงการดำเนินการของฝ่ายความมั่นคงต่อเหตุการณ์ไม่สงบในพื้นที่ฝ่ายตรงข้ามตลอดมาว่า ในฐานะคณะกรรมการชายแดนไทย-เมียนมา (TBC) ก็ได้พูดคุยกันตลอด และแจ้งเตือนประท้วงทั้งด้วยลายลักษณ์อักษรและด้วยวาจารวมทั้งสิ้น 7 ครั้ง ซึ่งได้รับการตอบรับจากเมียนมาเป็นอย่างดีทุกครั้ง เมื่อมีกระสุนหรือส่วนไหนที่มีการคุกคามฝั่งนี้ก็ยิงกระสุนเตือน เราดูแลความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของพี่น้องประชาชนชาวไทยให้ดีที่สุด และช่วยเหลือทางมนุษยธรรมกับผู้หนีภัยชาวเมียนมา ที่ผ่านมาจึงขอขอบคุณทุกส่วนที่ตอบรับมาอย่างดี
“อย่างเช่นที่บ้านหมื่นฤๅชัย ก็ได้มีการช่วยเหลือเยียวยาบ้านเรือนที่ได้รับผลกระทบจากการสู้รบ เราซ่อมเรียบร้อยโดยความร่วมมือจากทั้ง อ.พบพระ อบต.พบพระ กองร้อยทหารราบที่ 1431 ตลอดจนทุกบ้านมีหลุมหลบภัย ที่สร้างโดยความช่วยเหลือของเรา”
“ต้องอย่าลืมว่าแม่น้ำเมย เมื่อมีการสู้รบในพื้นที่ฝั่งตรงข้าม ก็มีโอกาสที่จะมีกระสุนหรือสิ่งอันตรายจากฝั่งตรงข้ามมา เราก็พยายามดูแลความปลอดภัยให้มากที่สุด เราหวังว่าสถานการณ์น่าจะดีขึ้นหลังจากทุกส่วนเห็นว่าพี่น้องประชาชนทั้งเมียนมาและฝั่งไทยได้รับความเดือดร้อน ทั้งสองฝ่ายคาดว่าจะหาขั้นตอนการหยุดยิงและเข้าสู่ความสงบได้” ผบ.ฉกร.14 กล่าว
ด้าน พล.ต.ต.ปกปภพ บดีพิทักษ์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดตาก กล่าวถึงความร่วมมือจากทางตำรวจร่วมกับทหารว่า ก่อนหน้าเมื่อยังไม่มีสถานการณ์วันนึงคุยกันไม่กี่รอบ แต่ตอนนี้เราก็ได้คุยกันทุกวัน ของทางตำรวจจะดูแลอยู่ในส่วนหลังแนว จากพื้นที่ปลอดภัยถึงพื้นที่ในประเทศ ไม่ให้ปัญหาลุกลามถึงพื้นที่ตอนใน เพราะตอนนี้มีกลุ่มแอบแฝงสถานการณ์แล้วไปซ้ำเติมภายใน พร้อมกับเฝ้าระวังไม่ให้เกิดคลัสเตอร์โควิดใหม่ตามนโยบายรัฐบาล
“การหลบหนีแรงงานผิดกฎหมายนั้น ก่อนหน้าการสู้รบก็ยังมีความพยายามลักลอบขนเข้าไป ตอนนี้ก็ยังจับได้ทุกวัน รูปแบบและเส้นทางก็เปลี่ยนไปตามสถานการณ์ ส่วนหนึ่งเราก็ได้ข้อมูลจากฝ่ายทหาร รับทราบข้อมูลการแต่งกายและรายละเอียดในทางลับ เราจึงพยายามปรับรูปแบบการทำงานสอดรับและขยายผลต่อ เพื่อให้นโยบายรัฐบาลเกิดประสิทธิผลสูงสุด” ผบก.ภ.จว.ตาก กล่าว
พ.อ. ณรงค์ชัย กล่าวเสริมว่า ช่องทางไหนไม่มีการสู้รบ และพฤติกรรมไม่ใช่ผู้หนีภัย ช.ร.บ. ในพื้นที่ก็จะดูออกว่าเป็นแรงงานผิดกฎหมาย และมีการสำรวจยอดจำนวนคนอพยพตั้งแต่ขึ้นรถ ฉะนั้นจะสังเกตได้ค่อนข้างง่าย และมีโอกาสน้อยที่แรงงานผิดกฎหมายจะลักลอบเข้ามาได้