โคราช ส่งหนังสือให้ความเห็นแย้งถึงอัยการสูงสุด
หลัง สนง.อัยการจังหวัด เสนอไม่สั่งฟ้องเอกชนรุกป่า ลอบฝังกลบสารเคมี
นายสมเกียรติ วิริยะกุลนันท์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา เป็นประธานประชุม เพื่อให้ความเห็นเพิ่มเติมต่อสำนักงานอัยการสูงสุด กรณีเอกชนบุกรุกพื้นที่ป่าไม้ ลักลอบฝังกลบสารเคมี และประกอบกิจการ ขณะต้องคำสั่งให้หยุดประกอบการชั่วคราว ในพื้นที่ ต.กลางดง อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา
โดยมีนายธนัญชัย วรรณสุข ผู้อำนวยการสำนักงานสิ่งแวดล้อมและควบคุมมลพิษที่ 11 (นครราชสีมา) พร้อมผู้แทนจากกรมควบคุมมลพิษ สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดนครราชสีมา สำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดนครราชสีมา สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 8 ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดนครราชสีมา และเทศบาลตำบลสีมามงคล เข้าร่วม
ที่ประชุมมีข้อสรุปว่า ในคดีบุกรุกพื้นที่ป่าไม้ และคดีฝ่าฝืนคำสั่งเจ้าพนักงานท้องถิ่น จังหวัดนครราชสีมาจะทำหนังสือให้ความเห็นแย้งไปยังสำนักงานอัยการสูงสุด กรณีสำนักงานอัยการจังหวัด เสนอไม่สั่งฟ้อง ส่วนคดีครอบครองวัตถุอันตรายโดยไม่ได้รับอนุญาต ที่ดำเนินคดีโดยสำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดนครราชสีมา ขณะนี้อยู่ในชั้นพนักงานอัยการพิจารณา
ที่ประชุมยังมีมติให้เทศบาลตำบลสีมามงคล ประสานพนักงานสอบสวน สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 8 และสำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดนครราชสีมา ให้มีการนำกากอุตสาหกรรมในพื้นที่อายัดของกรมป่าไม้ ส่งไปกำจัด และรื้อถอนอาคารทั้ง 3 หลัง
สำหรับกรณีนี้ ต้นปี 2564 หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้าตรวจสอบจุดที่ชาวบ้านร้องเรียนว่า มีบริษัทเอกชนลักลอบทิ้งสารเคมีอันตรายภายในถ้ำ โดยใช้รถแบคโฮขุดหลุมขนาดใหญ่แล้วเทสารเคมีลงดิน เมื่อเจ้าหน้าใช้รถขุดดินลึกประมาณ 10 เมตร เพื่อนำดินไปตรวจ สอบ พบว่า มีการแอบทิ้งสารเคมีลงดินจริง เจ้าหน้าที่จากกรมควบคุมมลพิษจึงเข้าแจ้งความที่ สภ.กลางดง ให้ดำเนินคดีกับบริษัทดังกล่าว พร้อมทั้งประสานกรมทรัพยากรน้ำบาดาล ได้นำน้ำบาดาลรอบโรงงานไปตรวจสอบ พบว่า มีสารเคมีปนเปื้อนในน้ำด้วย
นอกจากนี้ยังพบว่า บริเวณที่ลักลอบทิ้งสารเคมี เป็นการบุกรุกที่ของกรมป่าไม้ กรมป่าไม้จึงได้แจ้งความดำเนินคดีเช่นกัน แต่กลับพบว่า โรงงานยังคงขนสารเคมีเข้าไปทิ้งในจุดดังกล่าวตามปกติ แม้คณะกรรมการรวบรวมเอกสารหลักฐาน จะมีมติว่า บริษัททำผิดตาม พ.ร.บ.โรงงาน , พ.ร.บ.สาธารณสุข และ พ.ร.บ.อื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง โดยเจ้าหน้าที่หน่วยงานต่างๆ ได้ลงพื้นที่เพื่อนำคำสั่งมาปิดประกาศ แจ้งให้โรงงานหยุดดำเนินการไปก่อน จนกว่าจะมีคำสั่งให้ดำเนินกิจการได้













