AROUND THAILAND

กอนช.เตือน กทม.-นนทบุรี-สมุทรปราการรับมือน้ำขึ้น 2.10 เมตร

กอนช.แจ้งระวังน้ำหนุน วันนี้ – 1 ส.ค. เตือน “กทม.-นนทบุรี-สมุทรปราการ” รับมือน้ำขึ้น 2.10 เมตร

กองอำนวยการน้ำแห่งชาติ (กอนช.) รายงานสถานการณ์น้ำและการบริหารจัดการน้ำ ประจำวันที่ 28 กรกฎาคม 2565 เวลา 08.00 น. แจ้งเฝ้าระวังน้ำทะเลหนุนสูง บริเวณแม่น้ำเจ้าพระยา 28 กรกฎาคม 2565 – 1 สิงหาคม 2565 โดยเวลาประมาณ 19.00 – 22.00 น. เป็นช่วงที่น้ำทะเลหนุนสูง ประกอบกับกรมชลประทาน ประกาศแจ้งการระบายน้ำผ่านท้ายเขื่อนเจ้าพระยาในอัตรา 1,000 – 1,250 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ซึ่งจะส่งผลให้ระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาตอนล่างเพิ่มสูงขึ้น

ทั้งนี้ คาดการณ์ว่าช่วงวันที่ 28 ก.ค. 65 – 1 ส.ค. 65 ระดับน้ำอาจมีความสูงประมาณ 1.90 – 2.10 เมตร จากระดับทะเลปานกลาง อาจส่งผลกระทบต่อบริเวณพื้นที่ชุมชนนอกแนวคันกั้นน้ำและแนวเขื่อนชั่วคราวบริเวณที่ไม่มีแนวป้องกันน้ำถาวร (แนวฟันหลอ) ในพื้นที่จังหวัดนนทบุรี สมุทรปราการ และกรุงเทพมหานคร

ส่วนการคาดการณ์สภาพอากาศ ช่วงวันที่ 28 ก.ค.65 – 29 ก.ค.65 มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทยมีกำลังอ่อนในขณะที่มีลมใต้และลมตะวันออกเฉียงใต้พัดปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง รวมทั้งกรุงเทพมหานคร และภาคตะวันออก ทำให้ประเทศไทยตอนบนมีฝนลดลง แต่ยังคงมีฝนฟ้าคะนองเกิดขึ้นได้บางพื้นที่ โดยมีฝนตกหนักบางแห่งบริเวณภาคใต้

ด้านนายประพิศ จันทร์มา อธิบดี เปิดเผยว่า น้ำเหนือที่ไหลผ่านสถานี C.2 อ.เมืองนครสวรรค์ จ.นครสวรรค์ มีปริมาณ 1,154 ลบ.ม./วินาที ระดับน้ำต่ำกว่าตลิ่ง 5.54 เมตร แนวโน้มปริมาณน้ำเหนือยังคงเพิ่มสูงขึ้น จึงบริหารจัดการโดยส่วนหนึ่งได้รับเข้าระบบชลประทาน 2 ฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยาเหนือเขื่อนเจ้าพระยา จ. ชัยนาท 355 ลบ.ม./วินาที อีกส่วนหนึ่งระบายผ่านเขื่อนเจ้าพระยาโดยควบคุมในอัตรา 1,100 ลบ.ม./วินาที

จะทำให้ในช่วงเวลาประมาณ 12.00 น. ของวันนี้ (28 ก.ค.) ระดับน้ำพื้นที่นอกคันกั้นน้ำได้แก่ คลองโผงเผง จ.อ่างทอง คลองบางบาล จ.พระนครศรีอยุธยา รวมถึงชุมชนแม่น้ำน้อยที่ต.หัวเวียง อ.เสนา ต.ลาดชิดและท่าดินแดง อ.ผักไห่ จ.พระนครศรีอยุธยามีระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้นจากวานนี้ (27 ก.ค.) ประมาณ 20 เซนติเมตร

ทั้งนี้ กรมชลประทานจะบริหารจัดการน้ำและควบคุมปริมาณการระบายน้ำผ่านเขื่อนเจ้าพระยาให้อยู่ในเกณฑ์ดังกล่าวอย่างเต็มศักยภาพ หากมีแนวโน้มปริมาณน้ำจะเพิ่มขึ้นอีกจะแจ้งให้ทราบต่อไป พร้อมขอให้ประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ริมสองฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยาและแม่น้ำน้อยเฝ้าระวังติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด

พร้อมกันนี้ ได้กำชับไปยังสำนักงานชลประทานที่ 11 สำนักเครื่องจักรกลและสำนักงานชลประทานในพื้นที่ใกล้เคียงให้เฝ้าระวังติดตามสภาพอากาศและสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด พร้อมปรับแผนบริหารจัดการน้ำในอ่างเก็บน้ำ เขื่อนระบายน้ำ และประตูระบายน้ำ ให้สอดคล้องกับสถานการณ์ ตรวจสอบความมั่นคงของอาคารป้องกันริมแม่น้ำ เสริมคันกั้นน้ำบริเวณจุดเสี่ยงพื้นที่ลุ่มต่ำริมแม่น้ำ เตรียมเครื่องจักร-เครื่องมือให้พร้อม รวมทั้งประชาสัมพันธ์แจ้งเตือนประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ริมน้ำนอกแนวคันกั้นน้ำ และแนวเขื่อนชั่วคราวในบริเวณที่ไม่มีแนวป้องกันน้ำถาวร (แนวฟันหลอ) รวมไปถึงพื้นที่จุดเสี่ยงที่เป็นพื้นที่ลุ่มต่ำตามริมแม่น้ำให้ทราบล่วงหน้า อีกทั้งต้องพร้อมเข้าช่วยเหลือประชาชนอย่างทันท่วงที

สำหรับปริมาณน้ำเฉพาะ 4 เขื่อนหลักลุ่มน้ำเจ้าพระยา ได้แก่ เขื่อนภูมิพล เขื่อนสิริกิติ์ เขื่อนแควน้อยบำรุงแดน และเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ ล่าสุด มีปริมาณน้ำรวมกัน 10,424 ล้าน ลบ.ม. หรือร้อยละ 42 ของความจุอ่าง มีปริมาณน้ำไหลลงอ่างรวมกันประมาณ 95.01 ล้าน ลบ.ม. รับน้ำได้อีกกว่า 14,400 ล้าน ลบ.ม.

Related Posts

Send this to a friend