เตรียมกู้เรือบรรทุกน้ำมัน ป.อันดามัน 2 หลังอับปางกลางทะเลชุมพร
เตรียมกู้เรือบรรทุกน้ำมัน ป.อันดามัน 2 หลังอับปางกลางทะเลชุมพร ด้าน ทช.ลาดตระเวณไม่พบคราบน้ำมันรั่วไหลเพิ่ม
ศูนย์วิจัยทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งอ่าวไทยตอนกลาง ออกลาดตระเวนพื้นที่ทางทะเลในเขตจังหวัดชุมพร ติดตามผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมและสถานการณ์การรั่วไหลของคราบน้ำมันจากเรือ ป.อันดามัน 2 ซึ่งเป็นเรือบรรทุกน้ำมัน ที่อับปางห่างปากน้ำชุมพรประมาณ 24 ไมล์ทะเล เบื้องต้น ไม่พบคราบน้ำมัน แต่พบน้ำทะเลเปลี่ยนสี 3 บริเวณ ได้แก่ หาดทุ่งวัวแล่น แหลมแท่น และอ่าวทุ่งมหา โดยมีความหนาแน่นไม่มากนัก ล่าสุด ได้รับข้อมูลจากเจ้าท่าภูมิภาคจังหวัดชุมพรว่า เจ้าของเรือเตรียมการกู้เรือในวันที่นี้ (28 ม.ค. 65)
ด้านสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จ.ประจวบคีรีขันธ์ ร่วมกับศูนย์อนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเล จ.ประจวบคีรีขันธ์ สำรวจชายฝั่งทะเลพื้นที่ อ.บางสะพาน พบว่ายังไม่ได้รับผลกระทบจากเหตุเรือบรรทุกน้ำมัน ป.อันดามัน 2 อับปางกลางทะเลชุมพร เนื่องจากอยู่ห่างจากจุดเกิดเหตุกว่า 25 ไมล์ทะเล และอยู่ห่างจากชายฝั่งทะเลพื้นที่ อ.เมืองประจวบคีรีขันธ์ กว่า 100 ไมล์ทะเล
ด้วยระยะทางไกลประกอบกับเกิดเหตุหลายวันแล้ว แสงแดดกระทบผิวน้ำมัน ส่งผลให้เกิดการระเหยเพราะเป็นน้ำมันดีเซล ต่างจากกรณีน้ำมันที่รั่วไหลในทะเลระยอง ซึ่งเป็นน้ำมันดิบ ประกอบกับพื้นที่ทางทะเลของจังหวัดชุมพรมีเกาะและอ่าวโค้งเว้า หากเกิดคราบน้ำมัน จะช่วยป้องกันไม่ให้ไหลออกนอกพื้นที่ สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จ.ประจวบคีรีขันธ์ คาดว่าสถานการณ์ขณะนี้ถือว่าไม่น่าเป็นกังวลว่าจะเกิดผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม
ส่วนกรณีพบน้ำทะเลเปลี่ยนสีเป็นสีเขียว ผลการติดตามปรากฏการณ์ดังกล่าวในพื้นที่หาดวนกรถึงหาดบ้านกรูด พบน้ำทะเลเปลี่ยนเป็นสีเขียว จากการสะพรั่งของแพลงก์ตอนพืชกลุ่มไดโนแฟลกเจลเลตชนิด Noctiluca scintillans บริเวณหาดวนกร เกาะหลัก เกาะพัง และหาดบ้านกรูด จ.ประจวบคีรีขันธ์ ลักษณะเซลล์ส่วนใหญ่เริ่มเข้าสู่ระยะย่อยสลาย ไม่พบการตายของสัตว์น้ำ แต่ยังคงติดตามเฝ้าระวังสถานการณ์อย่างต่อเนื่องต่อไป