ศปถ. สรุป 7 วันอันตรายช่วงสงกรานต์ 2565
ศปถ.สรุป 7 วันอันตรายช่วงสงกรานต์ 2565 จำนวนครั้งและจำนวนผู้บาดเจ็บลดลงจากปีก่อน แต่ผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้น
วันนี้ (18 เม.ย. 65) ศูนย์อำนวยการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลสงกรานต์ 2565 สรุปสถิติอุบัติเหตุทางถนน ประจำวันที่ 17 เมษายน 2565 เกิดอุบัติเหตุ 188 ครั้ง มีผู้บาดเจ็บ 171 ราย ผู้เสียชีวิต 31 ราย ส่วนสถิติอุบัติเหตุสะสม 7 วัน คือตั้งแต่วันที่ 11 – 17 เมษายน 2565 ซึ่งเป็นวันสุดท้ายของการดำเนินงานป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนน พบว่า เกิดอุบัติเหตุรวม 1,917 ครั้ง มีผู้บาดเจ็บ 1,869 ราย ผู้เสียชีวิต 278 ราย

สาเหตุที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ ขับรถเร็วเกินกำหนด (40.69%) รองลงมาดื่มแล้วขับ (21.81%) ส่วนยานพาหนะที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ รถจักรยานยนต์ (82.11%) รถปิกอัพ (7.37%) ส่วนใหญ่เกิดบนถนนกรมทางหลวง (47.34%) ถนนใน อบต./หมู่บ้าน (27.66%) บริเวณจุดเกิดเหตุเป็นทางตรง (85.64%) ช่วงเวลาที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ ช่วงเวลา 17.01 – 18.00 น. (11.17%)
จากข้อมูลยังพบว่า ผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตส่วนใหญ่อยู่ในช่วงอายุ 20 – 29 ปี และช่วงอายุ 50 – 59 ปี โดยจังหวัดที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ พระนครศรีอยุธยา เชียงราย และเพชรบุรี (จังหวัดละ 8 ครั้ง) จังหวัดที่มีผู้บาดเจ็บสูงสุด ได้แก่ เพชรบุรี (9 คน) จังหวัดที่มีผู้เสียชีวิตสูงสุด ได้แก่ กรุงเทพมหานคร กำแพงเพชร พระนครศรีอยุทธยา ราชบุรี ร้อยเอ็ด ลำปาง สงขลา และสุพรรณบุรี (จังหวัดละ 2 ราย)
เจ้าหน้าที่ได้จัดตั้งจุดตรวจหลัก 1,895 จุด เจ้าหน้าที่ปฏิบัติงาน 56,134 คน เรียกตรวจยานพาหนะ 372,032 คัน มีผู้ถูกดำเนินคดี รวม 59,049 รายมีความผิดฐานไม่สวมหมวกนิรภัย 16,503 ราย ไม่มีใบขับขี่ 15,366 ราย

นายบุญธรรม เลิศสุขีเกษม อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ในฐานะเลขานุการศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนน (ศปถ.) กล่าวว่า จำนวนครั้งของการเกิดอุบัติเหตุทางถนนและจำนวนผู้บาดเจ็บลดลงจากปีที่ผ่านมา แต่มีจำนวนผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้น โดยสถิติผู้เสียชีวิต ณ จุดเกิดเหตุมีอัตราที่เพิ่มขึ้น ซึ่งเป็นผลมาจากการขับรถด้วยความเร็วสูง ทำให้เกิดการบาดเจ็บรุนแรงและเสียชีวิต
สำหรับการดำเนินงานลดอุบัติทางถนนในภาพรวม ศปถ.จะรวบรวมข้อเสนอแนะของทุกภาคส่วนไปจัดทำข้อเสนอเชิงนโยบายให้รัฐบาลกำหนดเป็นกรอบแนวทางเพิ่มประสิทธิภาพ สร้างความปลอดภัยทางถนนของประเทศอย่างรอบด้าน เพื่อนำไปสู่การบรรลุเป้าหมายระดับประเทศในการลดอัตราผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางถนน 12 คน ต่อประชากรแสนคนภายในปี พ.ศ. 2570












