AROUND THAILAND

เขื่อนเจ้าพระยา-เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ ปรับเพิ่มการระบายน้ำอีกรอบ

นายประพิศ จันทร์มา อธิบดีกรมชลประทาน กล่าวถึงกรณีที่กรมอุตุนิยมวิทยา พยากรณ์สภาพอากาศ จะยังคงมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งบริเวณภาคเหนือ ต่อเนื่องถึงวันนี้ จึงคาดการณ์ว่า ปริมาณน้ำที่สถานีวัดน้ำ C.2 จังหวัดนครสวรรค์จะไหลผ่านอัตราสูงสุดถึง 1,400 ลูกบาศก์เมตร (ลบ.ม.)/วินาทีซึ่งเช้าวันนี้อยู่ที่ 1,331 ลบ.ม./วินาที ทำให้มีความจำเป็นต้องระบายน้ำท้ายเขื่อนเจ้าพระยาเพิ่มขึ้นในอัตราระหว่าง 1,100 – 1,400 ลบ.ม./วินาที โดยวันนี้ระบายที่ 1,149 ลบ.ม./วินาที ปรับขึ้นจากเมื่อวานนี้ซึ่งอยู่ที่ 1,049 ลบ.ม./วินาที

สำหรับการปรับการระบายน้ำผ่านเขื่อนเจ้าพระยาขึ้นในอัตราดังกล่าว จะส่งผลให้พื้นที่ริมน้ำมีระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้นจากปัจจุบันอีกประมาณ 20 – 60 ซม. บริเวณพื้นที่ลุ่มต่ำนอกคันกั้นน้ำบริเวณคลองโผงเผง จ.อ่างทอง , คลองบางบาล จ.พระนครศรีอยุธยา และ ต.หัวเวียง อ.เสนา ต.ลาดชิด ต.ท่าดินแดง อ.ผักไห่ จ.พระนครศรีอยุธยา (แม่น้ำน้อย)

ทั้งนี้ ได้แจ้งเตือน 11 จังหวัดในลุ่มน้ำเจ้าพระยาได้แก่ จ.อุทัยธานี ชัยนาท สิงห์บุรี อ่างทอง สุพรรณบุรี พระนครศรีอยุธยา ลพบุรี ปทุมธานี นนทบุรี สมุทรปราการ กรุงเทพมหานคร และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมถึงประชาสัมพันธ์แจ้งเตือนสถานประกอบการริมแม่น้ำ รวมทั้งประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ริมแม่น้ำเจ้าพระยาและแม่น้ำน้อย ขอให้เฝ้าระวังติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด

อธิบดีกรมชลประทาน กล่าวเพิ่มเติมว่า จะบริหารจัดการน้ำและควบคุมปริมาณการระบายน้ำผ่านเขื่อนเจ้าพระยาให้อยู่ในเกณฑ์ดังกล่าวอย่างเต็มศักยภาพ หากมีปริมาณน้ำเหนือเพิ่มขึ้นที่จะส่งผลให้มีปริมาณน้ำไหลผ่านเขื่อนเจ้าพระยามากกว่า 1,400 ลบ.ม./วินาทีจะแจ้งให้ทราบอีกครั้ง

นอกจากนี้ ยังกำชับให้สำนักงานชลประทานทุกแห่งปรับการระบายน้ำให้เหมาะสมและสอดคล้องกับสภาพน้ำในเขื่อน ตามที่กองอำนวยการน้ำแห่งชาติ (กอนช.) แจ้งเตือน ประกอบด้วย อ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ 9 แห่งที่มีปริมาณน้ำสูงกว่าเกณฑ์ควบคุมสูงสุด (Upper Rule Curve) ได้แก่ เขื่อนแม่งัดสมบูรณ์ชล กิ่วลม กิ่วคอหมา น้ำพุง อุบลรัตน์ บางพระ หนองปลาไหล และป่าสักชลสิทธิ์ รวมถึงบึงบอระเพ็ด ตลอดจนอ่างเก็บน้ำขนาดกลางที่มีปริมาณน้ำมากกว่า 80% ของปริมาณการกักเก็บรวม 112 แห่ง โดยย้ำให้ติดตามการพยากรณ์อากาศของกรมอุตุนิยมวิทยาอย่างใกล้ชิด และคาดการณ์ปริมาณน้ำไหลเข้า เพื่อจะได้บริหารจัดการอย่างเหมาะสม และลดผลกระทบจากน้ำล้นอ่างเก็บน้ำท่วมพื้นที่บริเวณท้ายอ่างเก็บน้ำให้น้อยที่สุด

ด้านโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาป่าสักชลสิทธิ์ สำนักงานชลประทานที่ 10 แจ้งว่า ได้ปรับเพิ่มการระบายน้ำจากเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ โดยเป็นการทยอยปรับขึ้นเป็นขั้นบันได จากที่ปรับขึ้นครั้งแรกเมื่อวันที่ 10 สิงหาคม ระบาย 120.49 ลบ.ม./วินาที เช้าวันนี้ (13 สิงหาคม) เพิ่มขึ้นเป็น 160.61 ลบ.ม. /วินาที ทำให้ประมาณน้ำที่ระบายต่อวันเพิ่มขึ้นจาก 10.41 ล้านลบ.ม. เป็น 13.87 ล้านลบ.ม. เนื่องจากมีปริมาณน้ำไหลเข้าต่อเนื่อง โดยเช้าวันนี้ ปริมาณน้ำเข้าเขื่อนเพิ่มขึ้นไปเป็น 28.66 ล้านลบ.ม. ขณะนี้ปริมาณน้ำในอ่างเก็บน้ำมี 433.52 ล้านลบ.ม. เทียบกับความจุระดับเก็กกักสูงสุด 960 ล้านลบ.ม. คิดเป็น 45.06%

Related Posts

Send this to a friend

Thailand Web Stat