AROUND THAILAND

เตรียมพร้อมทุกชลประทานเพื่อรับมือโกนเซิน และภาวะฝนตกหนัก

ดร.ทวีศักดิ์ ธนเดโชพล รองอธิบดีกรมชลประทาน เปิดเผยว่า ฝนที่ตกหนักในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาในพื้นที่ภาคเหนือตอนบน และภาคกลาง ส่งผลให้มีน้ำท่าไหลหลากลงสู่แม่น้ำสายหลักต่างๆ ก่อนจะไหลลงสู่แม่น้ำเจ้าพระยา ทำให้ระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง คาดการณ์ว่าจะมีปริมาณน้ำไหลผ่านสถานีวัดน้ำ C.2 จังหวัดนครสวรรค์ เพิ่มขึ้นในเกณฑ์ประมาณ 1,300 – 1,400 ลบ.ม./วิ มีการตัดยอดน้ำเข้าระบบชลประทานทั้ง 2 ฝั่งรวม 400 ลบ.ม./วิ และควบคุมปริมาณน้ำไหลผ่านเขื่อนเจ้าพระยาในเกณฑ์ 800 – 1,200 ลบ.ม./วิ

ซึ่งจะส่งผลให้ระดับน้ำด้านท้ายเขื่อนเจ้าพระยา โดยเฉพาะพื้นที่ตลิ่งต่ำบริเวณริมแม่น้ำน้อย ตั้งแต่บริเวณตำบลบ้านกระทุ่ม ตำบลหัวเวียง อำเภอเสนา และตำบลท่าดินแดง อำเภอผักไห่ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้นจากปัจจุบันประมาณ 1.50 เมตร ในช่วงวันที่ 13 – 16 กันยายน 2564 ทั้งนี้ กรมชลประทานจะควบคุมการระบายน้ำผ่านเขื่อนเจ้าพระยาให้อยู่ในเกณฑ์ดังกล่าว พร้อมกับบริหารจัดการน้ำเต็มศักยภาพของพื้นที่ โดยมิให้มีผลกระทบต่อพื้นที่การเกษตร

ดร.ทวีศักดิ์ ธนเดโชพล รองอธิบดีกรมชลประทาน

ทั้งนี้ ได้สั่งการให้โครงการชลประทานในพื้นที่ลุ่มน้ำเจ้าพระยา ประสานแจ้งไปยังผู้ว่าราชการจังหวัดและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อประชาสัมพันธ์แจ้งเตือนประชาชนให้ทราบถึงสถานการณ์น้ำแล้ว จึงขอให้ประชาชนติดตามสถานกาณ์น้ำในระยะนี้อย่างใกล้ชิด หากต้องการความช่วยเหลือติดต่อได้ที่โครงการชลประทานใกล้บ้านหรือโทร.สายด่วนกรมชลประทาน 1460 ได้ตลอดเวลา

ชลประทานพิษณุโลกพร้อมรับมือ

โครงการชลประทานพิษณุโลก เฝ้าระวังติดตามสถานการณ์น้ำพร้อมรับมือ “พายุโกนเซิน” โดยพบว่าระดับน้ำแม่น้ำยม ยังคงมีระดับเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ที่ประตูระบายน้ำคลองบางแก้ว (แม่น้ำยมสายเก่า) อ.บางระกำ จ.พิษณุโลก ยังคงเพิ่มสูงขึ้น เนื่องจากมีฝนตกหนัก และมีน้ำจาก จ.สุโขทัย เข้ามาสมทบทั้งแม่น้ำยม และ แม่น้ำยมสายเก่า หรือคลองบางแก้ว และในส่วนลุ่มน้ำสาขาของแม่น้ำน่าน ทั้งแม่น้ำแควน้อย แม่น้ำวังทอง และแม่น้ำชมพู มีแนวโน้มระดับน้ำเพิ่มขึ้นเช่นเดียวกัน

นายชำนาญ ชูเที่ยง ผู้อำนวยการโครงการชลประทานพิษณุโลก เปิดเผยว่า จากปริมาณน้ำที่เพิ่มมากขึ้นใน จ.สุโขทัย และ ไนจังหวัดพิษณุโลก ทำให้กรมชลประทาน ใช้แผนบริหารจัดการน้ำ โดยผันน้ำแม่น้ำยมบางส่วนจากสุโขทัย เข้าสู่แม่น้ำยมสายเก่าลงพื้นที่หน่วงน้ำ ทุ่งบางระกำโมเดล และผันออกทางคลองผันน้ำยมน่าน ไปลงแม่น้ำน่าน ที่ ต.คอรุม อ. พิชัย จ.อุตรดิตถ์ เพื่อพร่องน้ำในแม่น้ำยม

ทั้งนี้ ในส่วนการระบายน้ำของเขื่อนหลัก ได้ปิดการระบายน้ำจากเขื่อนสิริกิติ์ ส่วนเขื่อนแควน้อยบำรุงแดน อ.วัดโบสถ์ ลดการระบายเหลือวันละ 1 ล้านลูกบาศก์เมตร เพื่อเก็บกักน้ำ ลดผลกระทบท้ายเขื่อน เพื่อให้แม่น้ำน่านสามารถรองรับน้ำจากแม่น้ำยม และแม่น้ำวังทอง ได้อย่างเต็มที่ พร้อมกันนี้ได้ประสานจังหวัดและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อแจ้งเตือนประชาชนให้เฝ้าระวัง เตรียมความพร้อมรับมือเคลื่อนย้ายทรัพย์สินไปยังที่ปลอดภัย เพื่อป้องกันความเสียหาย เนื่องจากมีแนวโน้มว่าระดับน้ำจะเพิ่มขึ้นและอาจเกิดน้ำล้นตลิ่ง ในช่วงวันที่ 12-15 ก.ย.64 โดยเฉพาะพื้นที่ อ.วังทอง และ อ.เนินมะปราง ส่วนอำเภอชาติตระการ นครไทย ได้ใช้มิสเตอร์เตือนภัย คอยเฝ้าระวัง ดินไหล โคลนถล่ม จากฝนตกสะสมอย่างใกล้ชิดตลอด 24 ชั่วโมง

ชป.สั่งจับตาลุ่มน้ำเชิญ เตรียมรับมือระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้น


นายเกียรติศักดิ์ หนูแก้ว ผู้อำนวยการสำนักงานชลประทานที่ 6 เปิดเผยว่า ขณะนี้ในลำน้ำเชิญมีปริมาณน้ำสะสมเป็นจำนวนมาก โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาพรม-เชิญ ได้ปรับการระบายน้ำที่ประตูระบายน้ำน้ำเชิญอันเนื่องมาจากพระราชดำริ อ.ชุมแพ จ.ขอนแก่น เพิ่มขึ้นเป็นวันละ 1 ล้าน ลบ.ม. เพื่อช่วยเร่งการระบายน้ำในลำน้ำเชิญ รองรับปริมาณน้ำจากตอนบนในอ.ภูผาม่าน จ.ขอนแก่น ที่จะทำไหลมาสมทบ และช่วยลดผลกระทบด้านตอนบนที่มีน้ำเอ่อล้นเข้าท่วมพื้นที่ลุ่มต่ำในอ..ภูผาม่าน จ.ขอนแก่น และอ.คอนสาร จ.ชัยภูมิ ประมาณ 900 ไร่ ซึ่งคาดว่าจะกลับเข้าสู่สภาวะปกติภายใน 1-2 วันนี้

Related Posts

Send this to a friend