AROUND THAILAND

’เอกนัฏ‘ เล็ง ดึงเงินจากกองทุนอุตสาหกรรม จ่ายเงินเยียวยาชาวบ้านรับผลกระทบสารเคมี

’เอกนัฏ‘ เตรียมลงพื้นที่บ้านค่าย ตรวจดูชุมชน – เกษตรกร หลังรับสารเคมี โรงงานวินโพรเสส เล็ง ดึงเงินจากกองทุนอุตสาหกรรม จ่ายเงินเยียวยาชาวบ้าน ชี้ กระทรวงอุตสาหกรรมมีอาวุธสำคัญ คือการแก้ไขกฎกติกา เพื่อหยุดพฤติกรรมของกลุ่มที่ใช้ช่องโหว่ทางกฎหมาย

วันนี้ (11 ก.ย. 67) ที่กระทรวงอุตสาหกรรม ภายหลัง นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีโรงงานเก็บสารเคมีวินโพรเสส อ.บ้านค่าย จ.ระยอง ที่ศาลมีคำพิพากษาสั่งชดใช้ให้กรมควบคุมมลพิษ 1,700 ล้านบาท หลังทิ้งสารเคมีอันตรายลงไปในแหล่งน้ำ และดินจนเกิดผลกระทบต่อธรรมชาติ นายเอกนัฏ ระบุว่า ตนเองจะลงพื้นที่ในช่วงบ่ายวันนี้ ส่วนแนวทางการแก้ไข ตนเห็นว่ามันมีช่องโหว่ของกฎหมาย ที่มีคนคิด และหาผลประโยชน์จากตรงนี้ ซึ่งที่ผ่านมามีการปล่อยปะละเลย โดยสิ่งแรกที่จะต้องทำคือ หยุดพฤติกรรมของกลุ่มคนเหล่านี้ ด้วยการแก้กฎหมายและกติกา ซึ่ง พ.ร.บ.โรงงาน อยู่ระหว่างการทำประชาพิจารณ์ เพื่อแก้กฎหมาย ซึ่งจะต้องแก้ไขในเรื่องการเพิ่มโทษของผู้ประกอบการกลุ่มสีเทา และระบุอำนาจการควบคุมให้ชัดเจน เพราะที่ผ่านมามีการอาศัยช่องโหว่ โดยเฉพาะการเสียค่าปรับหลักแสน แต่ได้กำไรจากธุรกิจหลักพันล้านบาท และเป็นปัญหาที่สะสมมาอย่างยาวนานนับ 20 ปี

ส่วนวันนี้ปัญหาที่เกิดขึ้นแล้ว ชาวบ้านจะต้องได้รับการเยียวยาอย่างรวดเร็ว โดยสิ่งแรกที่จะต้องเร่งทำวันนี้คือ การผันน้ำ เนื่องจากเป็นช่วงฤดูฝน ทำให้สารพิษ และสารเคมีไหลปะปนอยู่กับน้ำ และส่งผลกระทบต่อชาวบ้าน ซึ่งตนจะลงพื้นที่ชุมชนและการเกษตร เพื่อหาแนวทางการเยียวยา และการลงพื้นที่ในครั้งนี้ตนเองถือเป็นการส่งสัญญาณให้ชัดว่า ธุรกิจเหล่านี้จะเกิดขึ้นในประเทศไทยไม่ได้อีกแล้ว พร้อมยืนยันว่า ตนเองมีโมเดลในการจัดการแล้ว

ส่วนกองทุนปฏิรูปอุตสาหกรรม นายเอกนัฏ ระบุว่า ตนเองได้แอบทำการบ้านไว้แล้ว แนวคิดคือ ในกระทรวงมีกองทุนอยู่เป็นจำนวนมาก ซึ่งมีแนวคิดการควบรวมกองทุนที่อยู่กระจัดกระจาย และทำการบูรณาการรวบรวมเป็นกองทุนเดียว และสร้างพันธกิจที่ชัดเจน ซึ่งเชื่อว่า จะเป็นอาวุธที่สำคัญของกระทรวงอุตสาหกรรมในการปฏิรูปวงการอุตสาหกรรมไทย โดยบางกองทุน มีเงินทุนกว่าหลายหมื่นล้านบาท ด้วยการเยียวยาประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากโรงงานอุตสาหกรรม เช่นกรณีชาวบ้านบ้านค่าย จ.ระยอง ที่มีมูลค่าความเสียหาย 1,700 ล้านบาท แต่บริษัทไม่สามารถชดใช้ได้เพราะไม่มีเงิน ตนเองจึงมองว่าควรใช้เงินจากกองทุนประกันกลุ่มนี้ นำมาจ่ายเยียวยาให้กับชาวบ้านโดยทันที เพราะความเดือดร้อนชาวบ้านนั้นรอไม่ได้ และไม่ต้องเอางบกลางที่เป็นภาษีของประชาชนมาจ่าย และตนขอให้รอหลังแถลงนโยบายของรัฐบาลก่อน

นายเอกนัฏ กล่าวอีกว่า ในส่วนการปรับแก้กฎหมายอุตสาหกรรมหลายฉบับนั้น ตนเองมีแนวคิดที่จะปรับแก้กฎหมายหลายฉบับที่เกี่ยวข้องกับกติกา กฎกระทรวงในหลายส่วนของกระทรวงอุตสาหรรม และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

ส่วนกรณีที่โรงงานรีไซเคิลจากนักลงทุนประเทศจีน ได้มาสร้างผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมในประเทศไทย นายเอกนัฏเปิดเผยว่า ตนเองย้ำในคติสอนใจที่ว่า จะปกป้องอุตสาหกรรมไทยที่ถูกบิดเบือนจากอุตสาหกรรมต่างชาติ โดยจะต่อสู้กับธุรกิจที่ผิดกฎหมาย และหาความร่วมมือจากพันธกิจต่างชาติที่ทำถูกกฎหมาย เรามีอาวุธสำคัญในการแก้ไขกฎหมาย และมีแผนจะพูดคุยกับผู้บริหารกระทรวง และดำเนินการโดยทันที

Related Posts

Send this to a friend