AROUND THAILAND

ปภ. เผย ยังคงมีสถานการณ์อุทกภัยใน 16 จังหวัด เร่งระบายน้ำ และช่วยเหลือผู้ประสบภัยต่อเนื่อง

วันนี้ (1 พ.ย.65) เวลา 10.30 น. ปภ.รายงานว่ายังคงมีสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่ 16 จังหวัด ได้แก่ นครสวรรค์ ขอนแก่น มหาสารคาม กาฬสินธุ์ ร้อยเอ็ด ศรีสะเกษ อุบลราชธานี ชัยนาท สิงห์บุรี อ่างทอง พระนครศรีอยุธยา ปทุมธานี สุพรรณบุรี นครปฐม นครนายก และปราจีนบุรี รวม 73 อำเภอ 580 ตำบล 4,056 หมู่บ้าน ส่งผลให้ประชาชนได้รับผลกระทบ 222,466 ครัวเรือน พร้อมเผยสถานการณ์ภาพรวมระดับน้ำลดลงทุกจังหวัด ทั้งนี้ ปภ. ได้ประสานจังหวัดดูแลช่วยเหลือผู้ประสบภัย และเร่งระบายน้ำ เพื่อคลี่คลายสถานการณ์ภัย สำหรับพื้นที่ที่สถานการณ์คลี่คลายแล้ว ให้เร่งฟื้นฟูพื้นที่เพื่อให้ประชาชนกลับมาดำเนินชีวิตได้ตามปกติโดยเร็วที่สุด

กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) กระทรวงมหาดไทย ในฐานะกองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกลาง (กอปภ.ก.) รายงานว่า “จากอิทธิพลของมรสุมตะวันตกเฉียงใต้พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย ทำให้มีฝนตกหนักถึงหนักมากกับมีลมแรง บริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออก ภาคใต้ และอ่าวไทย และความกดอากาศสูงกำลังปานกลางจากประเทศจีน ยังคงปกคลุมประเทศไทยตอนบน ประกอบกับร่องมรสุมพาดผ่านภาคใต้ตอนกลาง รวมถึงมีการระบายน้ำจากเขื่อนลงแม่น้ำสายหลัก และลำน้ำสาขา ซึ่งส่งผลให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก น้ำล้นตลิ่ง และน้ำท่วมขัง โดยในช่วงวันที่ 28 ก.ย. – 1 พ.ย. 65 ได้เกิดอุทกภัย รวม 59 จังหวัด 353 อำเภอ 1,879 ตำบล 11,770 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 528,063 ครัวเรือน มีผู้เสียชีวิต 12 ราย และปัจจุบันยังคงมีสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่ 16 จังหวัด รวม 73 อำเภอ 580 ตำบล 4,056 หมู่บ้าน ทำให้ประชาชนได้รับผลกระทบจำนวน 222,466 ครัวเรือน”

สำหรับสถานการณ์ภาพรวมระดับน้ำลดลงทุกจังหวัด ดังนี้

  1. นครสวรรค์ น้ำท่วมในพื้นที่ 5 อำเภอ ได้แก่ อำเภอพยุหะคีรี อำเภอโกรกพระ อำเภอเมืองนครสวรรค์ อำเภอเก้าเลี้ยว และอำเภอชุมแสง รวม 34 ตำบล 225 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 16,789 ครัวเรือน
  2. ขอนแก่น น้ำท่วมในพื้นที่ 4 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมืองขอนแก่น อำเภอน้ำพอง อำเภอหนองนาคำ และหนองเรือ รวม 9 ตำบล 34 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 1,162 ครัวเรือน
  3. มหาสารคาม น้ำท่วมในพื้นที่ 4 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมืองมหาสารคาม อำเภอกันทรวิชัย อำเภอโกสุมพิสัย และอำเภอเชียงยืน รวม 46 ตำบล 562 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 10,459 ครัวเรือน
  4. กาฬสินธุ์ น้ำท่วมในพื้นที่ 2 อำเภอ ได้แก่ อำเภอฆ้องชัย และอำเภอกมลาไสย รวม 6 ตำบล 34 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 2,143 ครัวเรือน
  5. ร้อยเอ็ด น้ำท่วมในพื้นที่ 6 อำเภอ ได้แก่ อำเภอโพนทราย อำเภอจังหาร อำเภอเชียงขวัญ อำเภอโพธิ์ชัย อำเภอเสลภูมิ และอำเภอทุ่งเขาหลวง รวม 21 ตำบล 112 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 5,474 ครัวเรือน
  6. ศรีสะเกษ น้ำท่วมในพื้นที่ 4 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมืองศรีสะเกษ อำเภอกันทรารมย์ อำเภอราษีไศล และอำเภอยางชุมน้อย รวม 28 ตำบล 218 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 7,248 ครัวเรือน อพยพประชาชน 913 ครัวเรือน ไปยังศูนย์พักพิงชั่วคราว 35 จุด มีผู้เสียชีวิต 3 ราย
  7. อุบลราชธานี น้ำท่วมในพื้นที่ 6 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมืองอุบลราชธานี อำเภอวารินชำราบ อำเภอสว่างวีระวงศ์ อำเภอตาลสุม อำเภอดอนมดแดง และอำเภอพิบูลมังสาหาร รวม 25 ตำบล 138 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 6,041 ครัวเรือน อพยพประชาชน 183 ชุมชน ไปยังศูนย์พักพิงชั่วคราว 102 จุด
  8. ชัยนาท น้ำท่วมในพื้นที่ 4 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมืองชัยนาท อำเภอวัดสิงห์ อำเภอมโนรมย์ และอำเภอสรรพยา รวม 13 ตำบล 63 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 6,556 ครัวเรือน
  9. สิงห์บุรี น้ำท่วมในพื้นที่ 6 อำเภอ ได้แก่ อำเภออินทร์บุรี อำเภอเมืองสิงห์บุรี อำเภอท่าช้าง อำเภอพรหมบุรี อำเภอบางระจัน และอำเภอค่ายบางระจัน รวม 21 ตำบล 149 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 3,971 ครัวเรือน มีผู้เสียชีวิต 6 ราย
  10. อ่างทอง น้ำท่วมในพื้นที่ 6 อำเภอ ได้แก่ อำเภอวิเศษชัยชาญ อำเภอป่าโมก อำเภอไชโย อำเภอเมืองอ่างทอง อำเภอโพธิ์ทอง และอำเภอแสวงหา รวม 51 ตำบล 312 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 25,752 ครัวเรือน
  11. พระนครศรีอยุธยา น้ำท่วมในพื้นที่ 12 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเสนา อำเภอผักไห่ อำเภอบางบาล อำเภอบางไทร อำเภอบางปะอิน อำเภอพระนครศรีอยุธยา อำเภอบางปะหัน อำเภอนครหลวง อำเภอมหาราช อำเภออุทัย อำเภอบ้านแพรก และอำเภอบางซ้าย รวม 154 ตำบล 994 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 77,963 ครัวเรือน มีผู้เสียชีวิต 1 ราย
  12. ปทุมธานี น้ำท่วมในพื้นที่ 2 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมืองปทุมธานี และอำเภอสามโคก รวม 21 ตำบล 62 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 5,771 ครัวเรือน
  13. สุพรรณบุรี น้ำท่วมในพื้นที่ 3 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมืองสุพรรณบุรี อำเภอบางปลาม้า และอำเภอสองพี่น้อง รวม 43 ตำบล 271 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 26,105 ครัวเรือน
  14. นครปฐม น้ำท่วมในพื้นที่ 7 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมืองนครปฐม อำเภอกำแพงแสน อำเภอดอนตูม อำเภอพุทธมณฑล อำเภอสามพราน อำเภอบางเลน และอำเภอนครชัยศรี รวม 95 ตำบล 807 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 21,329 หมู่บ้าน
  15. นครนายก น้ำท่วมในพื้นที่อำเภอองครักษ์ รวม 7 ตำบล 20 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 535 ครัวเรือน
  16. ปราจีนบุรี น้ำท่วมในพื้นที่อำเภอบ้านสร้าง รวม 6 ตำบล 55 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 5,168 ครัวเรือน

Related Posts

Send this to a friend