‘พรเพชร’ พร้อมทำงานร่วมกับประธานสภาคนใหม่
‘พรเพชร’ พร้อมทำงานร่วมกับประธานสภาคนใหม่ ส่วน ส.ว. ที่ถูกดำเนินคดีให้เป็นไปตามกฎหมาย ชี้ ส.ว.ทุกคนมีอิสระในการเลือกนายกฯ
นายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานวุฒิสภา กล่าวถึงกระแสที่มีการกดดันให้ ส.ว.เลือก นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ เป็นนายกรัฐมนตรีว่าเป็นเพียงกระแสกดดันตามโซเชียลมีเดีย ซึ่งขณะนี้ยังไม่ได้มีการพูดคุยกับ ส.ว.แต่ทุกคนมีวุฒิภาวะ ความรู้ และความตั้งใจ ที่จะทำงานเพื่อประเทศ มีความคิดเป็นอิสระของตัวเอง แต่ไม่ได้หมายความว่าต้องทำตามอำเภอใจ จึงเชื่อว่าทุกคนจะยึดประโยชน์ของประเทศชาติ ส่วนคนที่มาว่าวุฒิสภาเป็นเพียงคนส่วนน้อย อีกทั้งการพิจารณา และการตัดสินใจของ ส.ว.ยังมีเวลา เพราะตามที่ นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี วางไทม์ไลน์ไว้ ยังมีเวลาประมาณ 2 เดือน
นายพรเพชร กล่าวต่อว่าไม่เคยให้แนวทางกับวุฒิสมาชิกในการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี เพราะตนมีหน้าที่เป็นรองประธานรัฐสภา จึงไม่อยู่ในฐานะที่จะแนะนำใครได้ และยังไม่มีคณะเจรจาจากพรรคก้าวไกลมาพูดคุยกับตนเอง โดยตั้งแต่ก่อนเลือกตั้ง ตนพูดไว้แล้วว่า ขอให้ยึดหลักที่เป็นประโยชน์ต่อประเทศชาติ ไม่เคยชี้นำ
นายพรเพชร กล่าวปฏิเสธข่าวกรณีที่ ส.ว. ตั้งวอร์รูมศึกษาการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี โดยตนนั้นไม่ทราบเรื่องตามที่เป็นกระแสข่าว เพราะไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง อีกทั้งยืนยันว่าไม่เคยพูดเรื่องที่ว่า หลังเลือกตั้งหากเกิน 300 เสียง ก็มีสิทธิ์ชอบธรรมในการจัดตั้งรัฐบาล
นายพรเพชร กล่าวถึงกรณีที่การเลือกตำแหน่งประธานสภาผู้แทนราษฎรยังไม่ลงตัว โดยย้ำว่า ตนเองไม่ได้อยู่ในสถานะที่จะเลือก ไม่สามารถพูดได้ว่าอยากได้ใครมาทำหน้าที่ มั่นใจในฐานะที่เป็นรองประธานรัฐสภาจะสามารถทำงานร่วมกับประธานสภาผู้แทนราษฎรคนใหม่ได้ ไม่ว่าจะเป็นใคร จะมีคุณวุฒิ วัยวุฒิอย่างไร เชื่อว่ามีความตั้งใจที่จะทำงาน แม้จะมีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ตัวบุคคลที่ถูกนำเสนอชื่อก็ตาม
นายพรเพชร ยังกล่าวถึงกรณีที่ นายกิตติศักดิ์ รัตนวราหะ และ นายอุปกิต ปาจรียางกูร ส.ว. ที่ถูกออกหมายเรียกดำเนินคดีว่า ทุกอย่างต้องเป็นไปตามกระบวนการยุติธรรม ในแง่ของจริยธรรม หากมีพฤติกรรมเข้าข่ายตามที่ถูกดำเนินคดีก็ต้องเข้าสู่กระบวนการตรวจสอบของคณะกรรมการจริยธรรมวุฒิสภา และหากมีการร้องเรียนมายังวุฒิสภา ต้องเข้าสู่กระบวนการ ตรวจสอบข้อเท็จจริงก่อน แต่ขณะนี้เข้าสู่กระบวนการของตำรวจศาลและอัยการแล้ว












