นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการพรรคอนาคตใหม่ ให้สัมภาษณ์ภายหลัง ศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยให้นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ สิ้นสุดสถานภาพการเป็น ส.ส. โดยระบุว่า หากถามว่าตนยอมรับคำวินิจฉัยหรือไม่ ต้องตอบว่ารัฐธรรมนูญกำหนดเอาไว้ให้คำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญนั้นเป็นที่สิ้นสุดและผูกพันธ์ทุกองค์กร ดังนั้น จะยอมรับหรือไม่ยอมรับ อย่างไรก็ตามคำตัดสินของศาลรัฐธรรมนูญถือเป็นที่สุด แต่ในส่วนของตนนั้น ในฐานะที่เรียนกฎหมายรัฐธรรมนูญ และเคยประกอบอาชีพเป็นอาจารย์คณะนิติศาสตร์ เคยบรรยายกฎหมายรัฐธรรมนูญมาไม่น้อย
และในฐานะวันนี้มาเป็น ส.ส. ขอใช้เสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นว่า ไม่เห็นด้วยกับคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญในวันนี้ และถ้าเมื่อไรก็ตามที่ศาลรัฐธรรมนูญ เอาคำวินิจฉัยเต็มออกมาเผยแพร่ และมีความเห็นส่วนตนของตุลาการแต่ละท่านมาเผยแพร่ ตนจำเป็นจะต้องใช้สิทธิเสรีภาพในการวิพากษ์วิจารณ์คำวินิจฉัยอย่างแน่นอน
“ยังยืนยันว่าคุณธนาธร ยังเป็นหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ และเมื่อใดก็ตามที่มีการลงมติเลือกนายกรัฐมนตรีกันใหม่ คุณธนาธรจะยังเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พรรคอนาคตใหม่ยังมีเส้นทางทางการเมืองอีกยาวไกล ยังคงจะรณรงค์ในเรื่องต่างๆ อย่างต่อเนื่อง ในส่วนของเรื่องภายในสภาผู้แทนราษฎร เพื่อน ส.ส.ของพรรคไม่ได้เสียอกเสียใจอะไร ทุกคนกำลังใจดี ทำงานกันเต็มที่ เพียงแต่เสียดายโอกาสสำหรับคนที่มีความรู้ความสามารถ น่าจะได้มาทำงานในสภา ได้มีโอกาสอภิปราย และถึงแม้คุณธนาธรจะสิ้นสมาชิกภาพการเป็น ส.ส. แต่ยังคงเป็นหัวหน้าทีมการเตรียมข้อมูลในการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ในช่วงเดือนธันวาคมที่จะถึงนี้” นายปิยบุตร กล่าว
นายปิยบุตร ย้ำว่าไม่ได้กังวลเรื่องคดีความหรือเรื่องที่ว่าจะไปถึงขั้นยุบพรรค เพราะตอนตั้งพรรคก็คิดไว้แล้วว่า ไม่ช้าหรือเร็วก็ต้องเจอมรสุมภายใต้กติกาที่เป็นอยู่นี้ แต่เชื่อว่าภายใต้ความมุ่งมั่นปรารถนาดีของเรา คิดว่าผู้มีอำนาจจะเปิดโอกาสให้ได้แสดงออกร่วมพัฒนาบ้านเมือง พาประเทศออกจากชุดความขัดแย้งที่ผ่านมาได้ เราพร้อมสู้ทุกคดี วันนี้จาก 25 คดี ลดเหลือ 24 คดี ส่วนวันหน้าจะเพิ่มอีกเป็น 30 คดี ก็ไม่กังวล แต่อย่างไรก็ตามอยากบอกว่า หนังม้วนเดิม 10 กว่าปีที่ผ่านมาฉายซ้ำหลายรอบแล้ว ไม่เคยทำสำเร็จ ยังวนที่เดิม คิดว่า