POLITICS

15 ชมรมสหกรณ์โคนมไทย-เดนมาร์ก ภาคกลาง ร้องรัฐบาลทบทวนโควต้านมโรงเรียน

15 ชมรมสหกรณ์โคนมไทย-เดนมาร์ก ภาคกลาง เรียกร้องรัฐบาลทบทวนจัดโควต้านมโรงเรียน

นายสมาน เหล็งหวาน ประธานชมรมสหกรณ์นมไทย-เดนมาร์ก จำกัด พร้อมสมาชิก ชมรมสหกรณ์สหกรณ์นมไทย-เดนมาร์ก ภาคกลาง เรียกร้องให้รัฐบาลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการบริหารจัดการโครงการนมโรงเรียน พิจารณาทบทวนการจัดสรรสิทธินมโรงเรียน โดยให้เน้นไปที่สหกรณ์และกลุ่มเกษตรกรที่รับซื้อน้ำนมดิบจากเกษตรกรด้วยความเป็นธรรม มีโรงงานผลิตนมที่ได้มาตรฐาน

นอกจากนี้ยังเห็นควรให้มีหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ตรวจสอบกระบวนการดำเนินการนมโรงเรียนอย่างเข้มข้นทุกขั้นตอน เพื่อให้เป็นไปตามเจตนารมณ์ของโครงการอาหารเสริมนมโรงเรียน ให้นักเรียนได้ดื่มนมโรงเรียนที่มีคุณภาพและช่วยให้การใช้งบประมาณเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพตามโครงการ รวมถึงการช่วยดูแลเกษตรกรไทยให้มีอาชีพการเลี้ยงโคนมที่มั่นคงและยั่งยืน โดยข้อเรียกร้องมีดังต่นี้

1) ในนามชุมนุมสหกรณ์ฯขอให้ทบทวนพิจารณาโควต้านมโรงเรียนให้แก่กลุ่มเกษตรกรก่อน

2) ให้สหกรณ์มีเกษตรกรเลี้ยงโคนมจริงเป็นสมาชิก และได้ทำบันทึกข้อตกลง MOU ซื้อขายน้ำนมดิบระหว่างกัน และต้องการขอสิทธิ์โควตาทำนมโรงเรียนโดยขอจัดสรรสิทธิโควตาให้เป็นไปตามสัดส่วนที่เป็นธรรมและโปร่งใส (เกษตรกรต้องเป็นตัวจริง)ที่รวมตัวเป็นสหกรณ์ หรือกลุ่มเกษตรกรตัวจริงเท่านั้น

3) ให้ยกเลิกหลักเกณฑ์และเงื่อนไขคุณสมบัติของผู้ประกอบการนมโรงเรียน อนุญาตประกอบกิจการโรงงานเฉพาะกลุ่มเกษตรกรสหกรณ์โคนมโดยให้สามารถจ้างโรงงานผลิตภัณฑ์นมในพื้นที่ที่มีกระบวนการผลิตผ่านหลักเกณฑ์อาหารเสริมนมโรงเรียนเป็นไปตามข้อกำหนด

4) พิจารณาให้กลุ่มเกษตรกรและสหกรณ์โคนมได้สิทธิ์โควต้าเข้าไปทำนมโรงเรียนง่ายและมากขึ้นเพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มน้ำนมที่ผลิตได้ และเป็นช่องทางเพิ่มรายได้ให้สหกรณ์และเกษตรกรผู้เลี้ยงโคนมมีตลาดที่แน่นอน มั่นคง และยั่งยืน

ชมรมสหกรณ์นมไทยเดนมาร์กจำกัด ติดตามการดำเนินงานโครงการนมโรงเรียนมาโดยตลอด เห็นว่าโครงการนี้เป็นโครงการที่ดีด้วยเจตนารมณ์ให้เด็กๆได้ดื่มนมโคสดแท้ไม่ผสมนมผง ทำให้มีสุขภาพดีร่างกายแข็งแรงควบคู่ไปกับเกษตรกรสามารถขายน้ำนมดิบได้และมีตลาดรองรับที่แน่นอน แต่ปรากฏว่า การบริหารจัดการโครงการเกษตรกรไม่ได้รับผลประโยชน์จากโครงการนี้ตามที่ควรจะเป็น เนื่องจากมีการแย่งชิงโควต้าของโรงงานเพื่อให้ได้สิทธิ์เข้ามาทำนมโรงเรียนของผู้ประกอบการ โดยไม่คำนึงถึงผลประโยชน์ที่เกิดขึ้นต่อเกษตรกรโดยตรง และยังไม่ให้ความสำคัญกับหน่วยงานภาครัฐที่ดูแลรับซื้อน้ำนมดิบจากเกษตรกร

Related Posts

Send this to a friend