POLITICS

‘หมอวรงค์’ โว กระแสตอบรับหาเสียงเลือกตั้งซ่อมหลักสี่-จตุจักร ผลตอบรับดีเกินคาด

งัดกลยุทธ์โค้งสุดท้ายหวังดึงพลังเงียบมาใช้สิทธิ เชื่อหากเลือกไทยภักดี 1 เสียง จะเป็นโดมิโน่ตัวแรกจะนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงประเทศ จัดเวทีปราศรัยใหญ่ครั้งแรกของพรรคไทยภักดี โดยมี ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.จากจังหวัดต่างๆ และเครือข่ายร่วมกันปราศรัย

นายแพทย์วรงค์ เดชกิจวิกรม หัวหน้าพรรคไทยภักดี กล่าวถึงการลงพื้นที่หาเสียงร่วมกับ นายพันธุ์เทพ ฉัตรนะรัชต์ ผู้สมัคร ส.ส.เขตหลักสี่-จตุจักร ว่าจากการลงพื้นที่ที่ผ่านมากระแสตอบรับดีเกินคาด เพราะเป็นพรรคการเมืองใหม่ที่ไม่มีฐานเสียงเดิม แต่ก็ขยันและทำมากกว่าคนอื่นหลายเท่า ทั้งการลงพื้นที่หาเสียง และการปราศรัยย่อยในชุมชน ทำให้สัมผัสได้ว่ากระแสตอบรับดี ซึ่งจากการไปสัมผัสพื้นที่ต่างๆ ยังกังวลพื้นที่ที่เป็นพื้นที่จัดตั้ง อาจจะมีการซื้อเสียงแย่งกันเยอะ ดังนั้นพรรคมีหน้าที่ต้องปลุกพลังเงียบเพื่อเข้ามาช่วย

โดยในวันนี้จะประกาศจุดยืนทางการเมืองที่ชัดเจน และวันนี้จะถือเป็นวันแรกของโค้งสุดท้ายของการหาเสียง และหลังจากนี้จะมีกิจกรรมเพื่อดึงดูดให้ประชาชนออกมาใช้สิทธิ โดยเฉพาะพลังเงียบซึ่งพรรคไทยภักดีมีความต้องการให้คนกลุ่มนี้ออกมาใช้สิทธิจำนวนมากและหวังว่าพรรคไทยภักดีจะทำให้พลังเงียบออกมาใช้สิทธิได้ เพราะพรรคฯ มีความตั้งใจที่จะทำเพื่อประชาชน

ทั้งนี้แม้ว่า พรรคพลังประชารัฐจะเป็นพรรครัฐบาลและมีชัยชนะในการเลือกตั้งในครั้งที่ผ่านมา อาจจะเป็นเจ้าของพื้นที่เดิมนั้น มองว่าของพวกนี้อยู่ที่ประชาชน ซึ่งไม่สามารถบอกได้ว่าใครเป็นเจ้าของประชาชน แต่ใครที่มาช่วยเหลือประชาชนได้ดีประชาชนก็จะเลือก ซึ่งหากพรรคไทยภักดี ได้มีโอกาสในการชนะการเลือกตั้ง สิ่งแรกๆ ที่เป็นปัญหาคือ สุขภาพ และคุณภาพชีวิต ดังนั้น ส.ส.ก็จะต้องมีหน้าที่ในการประสานงานกับหน่วยงานของรัฐและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

แต่ในภาพใหญ่ของประเทศ เชื่อว่าประเทศกำลังเข้าสู่ปัญหาการคอร์รัปชั่น หรือกลุ่มการเมืองที่พยายามจาบจ้วงสถาบัน ดังนั้นจึงเป็นภาพใหญ่ที่พรรคไทยภักดีจะต้องเข้ามาทำหน้าที่ทั้งในสภาและนอกสภา

ส่วนกรณีความขัดแย้งในพรรคพลังประชารัฐ มองว่าเป็นเรื่องภายในพรรคก็ไม่ขอละลาบละล้วงและไม่ขอก้าวก่าย แต่พรรคไทยภักดีก็พยายามที่จะทำหน้าที่ให้ดีที่สุด เพื่อให้ประชาชนเชื่อมั่นว่าพรรคไทยพรรคดีจะเป็นปากเป็นเสียงและส่งคนดีเข้าไปทำหน้าที่ในสภา และมองว่า ประชาชนเบื่อการเมืองในปัจจุบันมานานแล้ว โดยเฉพาะการประชุมสภาฯ ที่ล่มอยู่เรื่อยๆ ซึ่งส.ส.ไม่ได้ทำหน้าที่ และ ส.ส.บางพรรคก็ใช้เวทีสภาในการจาบจ้วงสถาบัน จึงทำให้พรรคไทยภักดี เป็นพรรคการเมืองที่มีอุดมการณ์ที่สร้างสรรค์ มาเป็นจุดชี้นำเพื่อนำพาประเทศไปสู่การเปลี่ยนแปลง

ส่วนจะเป็นตัวเร่งในการนำไปสู่การเลือกตั้งที่เร็วขึ้นหรือไม่นั้น ยังไม่สามารถตอบได้ แต่เชื่อว่า ถ้าประชาชนเลือกพรรคไทยภักดีแม้แต่เพียง 1 เสียง จะเป็นโดมิโน่ตัวแรกจะนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงประเทศ เนื่องจากแนวทางไม่เหมือนพรรคการเมืองอื่น เพราะไม่ได้ใช้อำนาจและไม่ได้ใช้เงินแต่เป็นการใช้อุดมการณ์

นายแพทย์วรงค์ มองว่าถ้าประชาชนเบื่อหน่ายการเมืองแบบเดิม แล้วออกมาเลือกกันเยอะๆ เราก็จะชนะ แต่ถ้าประชาชนเบื่อหน่ายนักการเมืองไม่อยากเลือกตั้ง พรรคไทยภักดีก็อาจจะแพ้ได้

Related Posts

Send this to a friend