‘ไทยก้าวใหม่’ แลกเปลี่ยนมุมมอง สภาอุตสาหกรรม เดินหน้าหาทางออกเศรษฐกิจไทย

‘พรรคไทยก้าวใหม่’ ร่วมแลกเปลี่ยนมุมมอง สภาอุตสาหกรรม เดินหน้าหาทางออกเศรษฐกิจไทย เน้นเพิ่มขีดความสามารถแข่งขันย้ำต้องปฏิรูปโครงสร้างใหญ่ทั้งระบบ

ผู้บริหารพรรคไทยก้าวใหม่ นำโดย ศ.ดร.สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ หัวหน้าพรรค ดร.คเณศ วังส์ไพจิตร หัวหน้าทีมเศรษฐกิจ พร้อมด้วยรองหัวหน้าพรรคและกรรมการบริหาร เข้าพบสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เมื่อวันที่ 8 ธันวาคม 2568 เพื่อแลกเปลี่ยนมุมมองและประเมินทิศทางเศรษฐกิจไทยในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อสำคัญของประเทศ

โดยการพูดคุยในครั้งนี้มุ่งเน้นการหาทางออกให้ประเทศไทย ก้าวข้ามวิกฤติเศรษฐกิจ ผ่านแกนใหญ่สำคัญ อาทิ

1.ยกระดับขีดความสามารถในการแข่งขัน ของประเทศให้ทัดเทียมภูมิภาค

2.ผลักดัน Productivity ภาคอุตสาหกรรม ให้สูงขึ้นด้วยเทคโนโลยีและระบบอัตโนมัติ

3.พัฒนา แรงงานทักษะสูง (High-skill Workforce) รองรับอุตสาหกรรมอนาคต

4.เดินหน้า ปฏิรูปกฎหมายครั้งใหญ่ (Regulatory Guillotine) ลดกฎระเบียบล้าหลังที่ขวางธุรกิจ

5.แก้ไขปัญหา คอร์รัปชัน ซึ่งทุกฝ่ายเห็นตรงกันว่าเป็น “ตัวถ่วงเศรษฐกิจไทย” ต้องเร่งจัดการอย่างเด็ดขาด

นอกจากนี้ ยังมีการหารือเรื่องโครงสร้างเศรษฐกิจที่จำเป็นต้องรีบปรับตัว เช่น ปัญหา ต้นทุนพลังงานสูง ที่กระทบความสามารถในการแข่งขันของโรงงานไทย, การเข้าถึงเงินทุนของ SMEs และปัญหา Credit Term ยาว ทำให้ธุรกิจขาดสภาพคล่อง, ความจำเป็นของการดึง การลงทุนใหม่ (New S-Curve) เพื่อสร้างการเติบโตระยะยาว

ทั้งนี้ ดร.เอ้ กล่าวว่า ได้ทางสภาอุตสาหกรรมให้ข้อมูลว่า ความสามารถในการแข่งขันของไทยลดลง GDP ในปีนี้เหลือเพียง 2% และหากภาคการเมืองไม่ทำอะไร ปีหน้าอาจจะได้เห็น GDP ของไทยลงไปที่ 1.8% หรือต่ำกว่า ซึ่งคงจะปล่อยให้ไหลลงมากกว่านึ้ไม่ได้ ต้องปรับเปลี่ยนเชิงโครงสร้างเศรษฐกิจ ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายของพรรคไทยก้าวใหม่ ที่ต้องใช้ยาแรงในการแก้ปัญหา ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการทุจริตคอร์รัปชั่น ระบบราชการที่ล้าหลัง ฯลฯ

นอกจากนี้ ยังได้หารือถึงเรื่องนิวเอสเคิร์ฟ (New S-Curve) หรือ กลุ่มอุตสาหกรรมใหม่แห่งอนาคตที่ขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยีและนวัตกรรม ที่มีการพูดกันมานาน แต่ทำไม่สำเร็จเพราะ วันนี้ประเทศไทยขายแต่ของถูกๆเน้นปริมาณมากๆ เมื่อเจอกับประเทศใหญ่ทุ่มสินค้ามาสวมสิทธิ ประเทศเพื่อนบ้านก็ผลิตได้ด้วยต้นทุนที่ต่ำกว่า ทำให้ความสามารถในการแข่งขันของไทยลดลง

การประชุมครั้งนี้สะท้อนชัดว่า นโยบายเศรษฐกิจและการศึกษาของพรรคไทยก้าวใหม่ มีทิศทางสอดคล้องกับความต้องการของภาคอุตสาหกรรม และจะเป็นพื้นฐานสำคัญของความร่วมมือในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยในระยะต่อไป