นายกฯ แจงความสัมพันธ์ ‘เบน สมิธ’ เผย เป็นเพื่อนของเพื่อนของเพื่อน แต่ไม่สนิท
นายกฯ แจงความสัมพันธ์ ‘เบน สมิธ’ หลังมีภาพร่วมเฟรม เผย เคยเจอกัน 5-6 ครั้ง เป็นเพื่อนของเพื่อนของเพื่อน แต่ไม่สนิท ถามสื่อ จำไม่ได้หรือ ทำไม ‘เขา’ ถึงไม่ได้สัญชาติ เชื่อเป็นมูลเหตุโดนเขี่ยพ้น ‘มหาดไทย’ สมัยรัฐบาลที่แล้ว บอก รู้หมด ใครปล่อยภาพ ลั่น ”You know me little go คุณรู้จักผมน้อยไป“ หลังสื่อถามเป็นสาเหตุที่ไม่กล้าแตะ
วันนี้ (4 ธ.ค. 68) ที่ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่มีภาพหลุดร่วมเฟรมกับนายเบญจมิน เมาเออร์เบอร์เกอร์ หรือ เบน สมิธ ว่า ทุกคนก็เห็นอยู่แล้วว่าภาพถ่ายเมื่อไหร่ ที่สำคัญที่สุดคือเมื่อวานที่ตนไปแถลงข่าว ผู้สื่อข่าวก็ถามว่าใครมีเส้น ใครมีสาย แต่สุดท้ายก็ตามกฎหมายหมดทุกอย่าง
ส่วนรู้จักกับนายเบน สมิธ เป็นการส่วนตัวหรือไม่ นายกรัฐมนตรี ระบุว่า รู้จักแต่ไม่สนิท พร้อมกับย้อนถามสื่อว่า “ปีนั้นปีอะไร นั่นแหละแค่เจอครั้งแรก”
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า เป็นเกมการเมืองหรือไม่ นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า แล้วแต่จะคิด โดยปกติ ตนไม่ได้ติดต่อมีธุรกิจธุรกรรมอะไรด้วยอยู่แล้ว ก่อนย้อนถามสื่อว่า ”จำไม่ได้หรือว่าทำไมเขาถึงไม่ได้สัญชาติ“
ผู้สื่อข่าวถามต่อว่า การโพสต์ภาพครั้งนี้ ถือเป็นการโจมตีรัฐบาลหรือไม่ที่ไม่ให้สัญชาติไทย นายกรัฐมนตรี ตอบว่า เขาว่าเป็นมูลเหตุ พร้อมหัวเราะ
ส่วนเป็นมูลเหตุที่ทำให้โดนปลดจากตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยใช่หรือไม่ นายกรัฐมนตรี ตอบว่า “ใช่ หนึ่งในข้อหาที่หนึ่งในข้อหาที่ผมโดนออกจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย แต่ไม่ใช่การปลดออกจากรัฐบาล แต่ให้ไปเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขแทน แต่ผมไม่เอา และขอถอนตัวออกจากรัฐบาล ต้องพูดกันให้แฟร์ๆ“
นายกรัฐมนตรี ย้ำว่า พรรคภูมิใจไทยไม่ได้โดนปลดจากรัฐบาลสมัยที่แล้ว นำเสนอขอให้สื่อนำเสนอให้ชัดเจน เพียงแต่ได้รับการขอให้ออกจากตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยไปเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ซึ่งพรรคภูมิใจไทยก็ปฏิเสธ
ส่วนจะเป็นเกมการเมืองที่พากันดึงให้ลงเหวกันทั้งหมดหรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เราต้องคิดวิเคราะห์ และแยกเรื่องให้ถูก
เมื่อถามว่ารู้หรือไม่ว่า ใครเป็นคนปล่อยภาพ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า “รู้หมดแหละ นักข่าวก็รู้ ใครก็รู้ทั้งนั้น”
ส่วนเรื่องการขยายผลแล้วออกหมายจับหมายจับสแกมเมอร์ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เรื่องหมายจับต้องไปถามตำรวจ แต่ในแนวทางการสืบสวน เส้นเงินถึงใครก็ต้องดำเนินการไปตามนั้น ตนถึงบอกว่าปิดชื่อ ถือพฤติกรรม
ส่วนตอนที่นายเบน สมิธ มานั้น ได้มาติดต่อทำธุรกิจอะไร นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ตอนที่ตนคุยกับเขา ก็เป็นความสัมพันธ์ที่รู้จักกันในฐานะเพื่อนของเพื่อนของเพื่อน แต่หากถามว่ารู้จักหรือไม่ ตนรู้จัก เจอกันตามงานก็ทักทาย
ผู้สื่อข่าวถามว่าเจอกันกี่ครั้ง นายกรัฐมนตรี หัวเราะ ร้องโห พร้อมกล่าวว่า “ถามอะไรกันขนาดนั้น”
ผู้สื่อข่าวถามย้ำว่า เคยเจอนายเบน สมิธกี่ครั้ง นายกรัฐมนตรี ถามกลับว่า เจอกี่ครั้งหมายความว่าอย่างไร เขาก็มีแวดวงมีอะไรอยู่ เจอในงานประมาณ 5-6 ครั้ง
ส่วนนายเบน สมิธ รู้จักผู้ใหญ่ในบ้านเมืองเราดีใช่หรือไม่ นายกรัฐมนตรี หัวเราะ ก่อนบอกต่อว่าพวกคุณก็เห็นรูปแล้ว จะมาเอาเรื่องอะไรจากรูปที่ถ่าย 7 ปีที่แล้ว
ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวถามย้ำว่า นี่อาจเป็นสาเหตุที่ทำให้รัฐบาลไม่กล้าปราบปรามพวกของนายเบน สมิธ อย่างจริงจังใช่หรือไม่ นายกรัฐมนตรี ตอบกลับว่า ”ผมหรือไม่กล้าแตะ You know me little go. รู้หรือเปล่าแปลว่าอะไร คุณรู้จักผมน้อยไป“ ก่อนเดินเข้าประชุมทันที












