เสธ.ทบ. ชี้ ต้องทบทวนปรับแผนจัดซื้อยุทโธปกรณ์ หลังมีสถานการณ์ชายแดนไทย – กัมพูชา
เสธ.ทบ. ชี้ ต้องทบทวนปรับแผนจัดซื้อยุทโธปกรณ์ หลังมีสถานการณ์ชายแดนไทย – กัมพูชา เผย ต้องสอดรับและทันสมัย ยึดหลักอะไรซ่อมได้ซ่อมก่อน พร้อมให้ความสำคัญความพร้อม และขวัญกำลังใจกำลังพล
วันนี้ (3 ธ.ค. 68) ที่ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ชัยพฤกษ์ ด้วงประพัฒน์ เสนาธิการทหารบก กล่าวถึงการมอบหมายนโยบายของนายกรัฐมนตรีในการจัดซื้ออาวุธยุทโธปกรณ์ ประจำปีงบประมาณ 2570 ที่ระบุว่ายังมีความจำเป็นอยู่ ว่า การจัดซื้ออาวุธเป็นไปตามภัยคุกคาม และสถานการณ์ต่างๆ ซึ่งกองทัพมีแผนการจัดซื้อจัดจ้างอยู่แล้ว แต่เมื่อมีสถานการณ์ระหว่างไทย – กัมพูชา จึงทำให้เราต้องกลับมาทบทวนแผน ในการเสริมสร้างกองทัพให้มีความทันสมัย และสอดคล้องกับสถานการณ์
ส่วนในปี 2570 การจัดการจัดซื้อยุทโธปกรณ์ประเภทตั้งรับหรือโจมตีเป็นหลักนั้น พล.อ.ชัยพฤกษ์ ระบุว่า ต้องดูทั้งระบบ ทั้งอาวุธระยะไกล และระยะสั้น รวมถึงอาวุธที่ติดตัวกำลังพล ว่ามีส่วนไหนที่ยังขาด ซึ่งกองทัพจำเป็นต้องใช้เวลาในการตรวจสอบ ว่ายุทโธปกรณ์ประเภทใด ที่ต้องจัดซื้อจัดหา
อย่างไรก็ตาม กองทัพบกยึดถือเรื่องการซ่อมยุทธโธปกรณ์เป็นหลักก่อนจัดซื้อ อะไรที่ซ่อมได้ก็จะพยายามซ่อมก่อน หรือมีอะไรที่จำเป็นต้องจัดหาเพื่อความทันสมัยและสอดรับกับสถานการณ์ ซึ่งต้องคิดล่วงหน้า
ส่วนนโยบายในการดูแลกำลังพล เสนาธิการทหารบก ย้ำว่าเป็นเรื่องสำคัญ ซึ่งเป็นนโยบายของรัฐบาล และกองทัพที่ได้เน้นย้ำว่ากำลังพลต้องมีความพร้อม ทั้งขวัญกำลังใจ และขีดความสามารถในการฝึก รวมถึงยุทธโธปกรณ์ประจำตัว












