โสภณ ซารัมย์เป็นประธานการลงนาม MOU ร่วม 16 หน่วยงานรัฐ บูรณาการแก้ปัญหายาเสพติด
รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานการลงนาม MOU ร่วม 16 หน่วยงานรัฐ บูรณาการแก้ปัญหายาเสพติดอย่างเป็นระบบ ตามนโยบาย Quick Big Win เตรียมนำร่องสแกนพื้นที่ทั่วประเทศ คัดกรองผู้เกี่ยวข้องกับยาเสพติดอย่างจริงจัง เพื่อนำไปสู่การแก้ไขได้ตรงจุด
วันนี้ (17 พ.ย. 68) เวลา 10:30 น. ที่โรงแรมปรินซ์ พาเลซ กรุงเทพ นายโสภณ ซารัมย์ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานในพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) “รวมพลัง รักศรัทธา แก้ปัญหายาเสพติด แบบบูรณาการ Quick Big Win ขับเคลื่อนอย่างรวดเร็ว สู่เป้าหมายอันยิ่งใหญ่” โดยเป็นการลงนามระหว่างหน่วยงานภาครัฐ 16 หน่วยงาน เช่น สํานักนายกรัฐมนตรี, กระทรวงสาธารณสุข กระทรวงยุติธรรรม, กระทรวงมหาดไทย กระทรวงกลาโหม, กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์, กระทรวงวัฒนธรม, กระทรวงแรงงาน, กระทรวงศึกษาธิการ และกรุงเทพมหานคร โดยมีผู้บริหาร ข้าราชการ และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วมพิธี ซึ่งภายในงาน นายโสภณ ได้นำผู้ร่วมงาน ยืนสงบนิ่งเป็นเวลา 93 วินาที เพื่อแสดงความอาลัย สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง
นายโสภณ กล่าวเปิดงาน ว่า การลงนาม MOU ครั้งนี้ เป็นภารกิจที่สำคัญของรัฐบาล จะเป็นประโยชน์กับประเทศอย่างจริงจัง ต่อการแก้ไขปัญหายาเสพติดซึ่งแพร่ระบาด และสั่งสมมานานกว่า 10 ปี และมีความสำคัญไม่น้อยกว่าปัญหาเรื่องชายแดนไทย – กัมพูชา หรือปราบปรามสแกมเมอร์ รัฐบาลจึงมีความตั้งใจที่จะใช้ช่วงระยะเวลา 4 เดือนนี้ ขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหาที่เรื้อรังมายาวนานให้สำเร็จ โดยเฉพาะการสำรวจข้อมูลของผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับยาเสพติด เพื่อกำหนดเป้าหมายในการแก้ปัญหาอย่างแม่นยำ โดยเตรียมนำร่องทดลองการสแกนพื้นที่หรือคัดกรองผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับยาเสพติด ที่จังหวัดสุรินทร์ และนำไปสู่การจัดค่ายบำบัดผู้เสพ โดยมีกระทรวงมหาดไทย กระทรวงสาธารณสุข เป็นหน่วยงานหลักในการประสานความร่วมมือระหว่างหน่วยงานต่างๆ
สำหรับการลงนามใน MOU ในครั้งนี้ จึงมีความสําคัญอย่างยิ่งในการรวมพลังของหน่วยงานภาครัฐให้เป็นหนึ่งเดียว เพื่อเสริมสร้างกลไกการทํางานที่ชัดเจน มีเป้าหมายร่วมกัน และสามารถผลักดันการแก้ไขปัญหายาเสพติดให้เกิดผลสัมฤทธิ์เป็นรูปธรรม นําไปสู่การลดจํานวนผู้เสพและผู้ป่วยยาเสพติด การเพิ่มคุณภาพของระบบการบําบัดรักษา การฟื้นฟูสมรรถภาพ และติดตาม ช่วยเหลือผู้ติดยาเสพติด อย่างเป็นระบบและต่อเนื่อง ในระยะเวลา 1 ปี และการสร้างสังคมไทยที่ปลอดภัย ปลอดยาเสพติดได้อย่างยั่งยืน
