‘สงคราม’ แนะรัฐ ออกมาตรการพักหนี้ช่วยผู้ประสบภัยน้ำท่วม
‘สงคราม’ แนะรัฐ ออกมาตรการพักหนี้ช่วยผู้ประสบภัยน้ำท่วม-ฟื้นฟูภาคเกษตรหลังน้ำลด ชี้ เกษตรเสียหายไม่ต่ำกว่า 2.9 หมื่นล้าน พื้นที่ปลูกข้าว 1.85 ล้านไร่ จมน้ำเสียหายหมด
นายสงคราม กิจเลิศไพโรจน์ เปิดเผยว่า สถานการณ์น้ำท่วมปี 2568 สร้างความเสียหายต่อเศรษฐกิจอย่างมาก หลายพื้นที่จมน้ำนานกว่า 3 เดือน แม้ปริมาณน้ำไม่มากเท่าปี 2554 แต่การบริหารจัดการน้ำ รวมทั้งการดูแลไร้ประสิทธิภาพ หลายพื้นที่ไร้การช่วยเหลือจากภาครัฐ ประชาชนต้องช่วยเหลือตัวเอง รัฐบาลไม่มีแนวทางชัดเจนว่าจะแก้ปัญหาอย่างไร กรณีรัฐบาลช่วยเหลือซ่อมแซมที่พักหลังคาเรือนละ 9,000 บาท เป็นเพียงการช่วยเบื้องต้น ประชาชนต้องการให้รัฐบาลแก้ปัญหาการพร่องน้ำให้ดีกว่านี้
ทั้งนี้ สถาบันการเงินหลายแห่งคาดการณ์ว่า น้ำท่วมปี 68 สร้างผลกระทบกับเศรษฐกิจไทยหนัก โดยเฉพาะภาคการเกษตร ประเมินเบื้องต้นเสียหายแล้วรวมกว่า 2.9 หมื่นล้านบาท คิดเป็นพื้นที่ทางการเกษตรกว่า 11.7 ล้านไร่ มูลค่าทรัพย์สินเสียหาย 4.5 พันล้านบาท และผลผลิตทางการเกษตรเสียหายกว่า 2.45 หมื่นล้านบาท ส่งผลให้สินค้าเกษตรบางชนิดราคาสูงขึ้น เช่น ผักชี คาดว่ามีโอกาสปรับจาก 60-80 บาทต่อกิโลกรัม เป็น 200 บาทต่อกิโลกรัม
ขณะเดียวกัน เกษตรกรผู้ปลูกข้าวได้รับผลกระทบโดยตรง เพราะผลผลิตข้าวนาปีเกือบทั้งหมดอยู่ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคเหนือ และภาคกลาง อีกทั้งตรงกับฤดูเก็บเกี่ยว ทำให้คาดว่าจะมีพื้นที่ข้าวนาปีได้รับผลกระทบราว 1.85 ล้านไร่ ผลผลิตเสียหาย 4.8 แสนตัน คิดเป็นมูลค่า 5,210 ล้านบาท นอกจากนี้ ยังต้องจับตาน้ำท่วม พ.ย.-ธ.ค. ที่จะกระทบผลผลิตยางพารา และปาล์มน้ำมันภาคใต้
“รัฐบาลต้องเร่งหามาตรการช่วยเหลือเกษตรกรอย่างเร่งด่วน หลังน้ำลดเชื่อว่าหลายครอบครัวแทบสิ้นเนื้อประดาตัว ต้องเร่งหามาตรการดูแลประชาชนหลังน้ำลด ทั้งการพักหนี้ หรือการฟื้นฟูภาคเกษตรโดยเร็ว อย่าปล่อยให้เกษตรกรต้องช่วยตัวเองในสภาวะหลังน้ำลด เป็นเรื่องที่ยากมากที่จะฟื้นเศรษฐกิจได้” นายสงคราม กล่าว












