AROUND THAILAND

ผู้ช่วย ผบ.ทบ. ลงพื้นที่ ทภ. 2 เยี่ยมกำลังพลชายแดนไทย–กัมพูชา

พลเอก พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก มีความห่วงใยในความเป็นอยู่ของกำลังพลที่ปฏิบัติหน้าที่อยู่ในพื้นที่แนวชายแดนได้มอบหมายให้ พลเอก อมฤต บุญสุยา ผู้ช่วยผู้บัญชาการทหารบก เดินทางลงพื้นที่ กองทัพภาคที่ 2 ระหว่างวันที่ 5–7 พฤศจิกายน 2568 เพื่อเยี่ยมเยียนและให้กำลังใจแก่กำลังพลที่ปฏิบัติหน้าที่ตามแนวชายแดนไทย–กัมพูชา พร้อมรับฟังข้อมูลการปฏิบัติงานในส่วนที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้การสนับสนุนด้านต่าง ๆ เป็นไปอย่างเหมาะสมและสอดคล้องกับภารกิจของกองทัพบก

โดยเมื่อวานนี้ (5 พ.ย. 68) เป็นวันแรกของการลงพื้นที่ ผู้ช่วยผู้บัญชาการทหารบกและคณะ ได้รับฟังการบรรยายสรุปผลการปฏิบัติภารกิจในห้วงที่ผ่านมา จากหน่วยขึ้นตรงกองทัพภาคที่ 2 ณ มณฑลทหารบกที่ 22 จังหวัดอุบลราชธานี โดยมีการรายงานถึงภาพรวมการปฏิบัติงานด้านกำลังพล การดูแลสิทธิและสวัสดิการทั้งสายงานปกติและสายสนาม รวมถึงการดำเนินงานของศูนย์ประสานการรับมอบความช่วยเหลือกำลังพลที่บาดเจ็บและครอบครัวของผู้เสียชีวิตจากการปฏิบัติหน้าที่

พลเอก อมฤต บุญสุยา ได้เน้นย้ำให้ทุกหน่วยให้ความสำคัญกับการดูแลสิทธิและสวัสดิการของกำลังพลทุกระดับชั้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งนายทหารชั้นประทวนและทหารกองประจำการ รวมถึงครอบครัวของกำลังพล เพื่อให้ได้รับการดูแลอย่างเหมาะสม อันจะนำไปสู่ประสิทธิภาพในการปฏิบัติงานและผลลัพธ์ที่ดีต่อกองทัพบกและประเทศชาติ

จากนั้น คณะได้เดินทางไป เยี่ยมกำลังพลที่ได้รับบาดเจ็บจากการปฏิบัติหน้าที่ ณ โรงพยาบาลค่ายสรรพสิทธิประสงค์ จังหวัดอุบลราชธานี เพื่อแสดงความห่วงใยและติดตามอาการอย่างใกล้ชิด พร้อมกล่าวชื่นชมในความเสียสละ ความเข้มแข็ง และความมุ่งมั่นของกำลังพลในการปฏิบัติหน้าที่อย่างเต็มกำลังความสามารถ

ในช่วงบ่าย ผู้ช่วยผู้บัญชาการทหารบก พร้อมด้วย พลตรี ณัฏฐ์ ศรีอินทร์ รองแม่ทัพภาคที่ 2 ได้เดินทางลงพื้นที่ตามฐานปฏิบัติการชายแดน เพื่อเยี่ยมพบปะ ให้โอวาท และมอบสิ่งของบำรุงขวัญแก่กำลังพล พร้อมตรวจเยี่ยมสภาพความเป็นอยู่ในด้านต่าง ๆ ทั้งที่พัก การประกอบเลี้ยง การสื่อสาร และสิ่งอำนวยความสะดวก เพื่อให้กำลังพลสามารถปฏิบัติหน้าที่ได้อย่างปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ

พลเอก อมฤต บุญสุยา ได้กล่าวขอบคุณกำลังพลทุกนายที่ทุ่มเทเสียสละในการปฏิบัติภารกิจตลอดห้วงที่ผ่านมา ด้วยความมุ่งมั่นและความเข้มแข็ง จนภารกิจบรรลุผลสำเร็จและได้รับความเชื่อมั่นจากประชาชน พร้อมเน้นย้ำให้ผู้บังคับบัญชาทุกระดับดูแลสุขภาพกายและใจของกำลังพลอย่างต่อเนื่อง ควบคู่กับการจัดการด้านสุขาภิบาลให้เหมาะสม เพื่อให้ทุกนายมีขวัญกำลังใจที่ดีและพร้อมปฏิบัติหน้าที่เพื่อประเทศชาติอย่างเต็มกำลัง

Related Posts

Send this to a friend