‘อภิสิทธิ์’ บอก ไม่เป็นไร หลังนิสิตจุฬาฯ ชูป้าย เหตุสลายการชุมนุม

บอก ต้องใช้เสรีภาพในขอบเขต ย้อน ‘ณัฐวุฒิ’ ไปฟังคำพูดคำต่อคำ ปมบอกศาลไม่เคยตัดสิน รับเป็นนักการเมือง ต้องชี้แจง ทำอะไรไว้ก็ต้องรับผิดชอบ

วันนี้ (5 พ.ย. 68) นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่ถูกนิสิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ชูป้าย กรณีเหตุการณ์สลายการชุมนุมปี 53 ที่ต่อไปอาจจะกลายเป็นปัญหาในเวลาลงพื้นที่อาจจะเจอเหตุการณ์แบบนี้ว่า ไม่เป็นไร ถ้าเราใช้สิทธิเสรีภาพอยู่ในขอบเขต และในกรณีที่เกิดขึ้นได้พยายามใช้คำอธิบายต่าง ๆ ถึงเหตุผลข้อเท็จจริง ซึ่งสามารถตรวจสอบและเห็นต่างกันได้ คิดต่างกันได้ วิพากษ์วิจารณ์กันได้ ทุกอย่างอยู่ในขอบเขตก็ไม่น่าจะเป็นปัญหาอะไร

ส่วนกรณีที่นายณัฐวุฒิ ใสเกื้อ แกนนำพรรคเพื่อไทยออกมาระบุว่า เหตุการณ์ชุมนุมเมื่อปี 53 ศาลยังไม่เคยตัดสิน นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ขอให้ไปฟังคำพูดของตนเองคำต่อคำ และตรวจสอบข้อมูลกับสาธารณะที่มีอยู่ก็ชัดเจนอยู่แล้ว

เมื่อถามย้ำว่าขบวนการที่เกิดขึ้นเป็นการดิสเครดิตหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ไม่ต้องมองอะไร ตนเองถือว่าเมื่อเขามาแล้วสอบถาม เราก็ชี้แจง เพราะตนเองเป็นคนหนึ่งที่พูดตลอดว่าคนเป็นนักการเมือง ต้องตรวจสอบได้ และเราเคารพการใช้สิทธิของเขา ไม่ได้เป็นปัญหาอะไร

ส่วนที่มีนักวิชาการบางคน ถึงขั้นใช้คำว่านายอภิสิทธิ์ ไม่ควรกลับมาลงสนามอีกครั้ง นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ก็เป็นความเห็นของท่าน

เมื่อถามย้ำว่าพรรคประชาธิปัตย์ยังไปต่อได้หรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า อยู่ที่ประชาชน แต่ความตั้งใจของตนเอง และกรรมการบริหารพรรคคืออะไร ซึ่งตนเองก็แถลงข่าวไปแล้ว ยืนยันว่า เป็นการเมืองที่สุจริต เป็นการเมืองที่รับผิดชอบ

ส่วนหลังจากนี้ เวลาลงพื้นที่หาเสียงอาจจะโดนป่วนเหมือนลักษณะเดียวกันนี้อีก นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ถ้าเป็นการใช้สิทธิโดยสุจริตก็ไม่มีปัญหา แต่ทั้งหลายทั้งปวง ก็อยากให้ทุกฝ่ายเคารพในการทำหน้าที่ของแต่ละฝ่าย เท่านั้นเอง และที่ว่าภาพเก่าจะกลับมาอีกครั้งหนึ่งก็ไม่มีปัญหาอะไร เพราะตนเองเป็นคนหนึ่งที่พูดมาตลอดว่าทำอะไรไว้ พูดอะไรไว้ ก็ต้องรับผิดชอบทั้งหมด ไม่ได้มีปัญหาอะไร

เมื่อถามว่าจะมีโอกาสเปิดเวทีแสดงวิสัยทัศน์ ชี้แจงกับคนรุ่นใหม่อย่างไร นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า จริง ๆ แล้วจากวันนี้ ไปจนถึงวันเลือกตั้ง ก็ต้องมีเวทีสื่อสารเยอะอยู่แล้ว เชื่อว่า การเลือกตั้งครั้งนี้ เรามุ่งไปสู่เรื่องของอนาคต เพราะตอนนี้ปฏิเสธไม่ได้ว่าการเมือง เศรษฐกิจอยู่ในสภาพที่ติดหล่มแบบนี้ ก็เพราะเราไม่พยายามพูดถึงปัญหาที่มีความสำคัญในระดับประเทศและประชาชน นโยบายพูดกันน้อยมาก และมักจะเป็นเรื่องของนโยบายเฉพาะหน้า ขณะที่ความเป็นอยู่ของคนส่วนใหญ่ตอนนี้ ขึ้นอยู่กับการก้าวเดินไปด้วยการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างหลายอย่าง พร้อม ๆ กับการมีนโยบายใหม่ ซึ่งเป็นความตั้งใจที่พวกเรานำเสนอ

ส่วนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจะทำให้เราหลุดโฟกัสที่เราจะขายนโยบายให้กับประชาชน เพราะต้องคอยตอบคำถามเรื่องเดิม ๆ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า “สมาธิผมดีอยู่ เดินหน้าทำงาน และวางแนวทางเอาไว้ว่าจะต้องทำอย่างไร แต่เราก็ไม่ต้องไปหนีสิ่งที่เกิดขึ้นแล้ว เพราะเราต้องรับผิดชอบ และเราก็รู้ว่าอะไรเกิดขึ้น”